แยกตัวประกอบ
\frac{\left(30-x\right)\left(8x+15\right)}{225}
หาค่า
-\frac{8x^{2}}{225}+x+2
กราฟ
แชร์
คัดลอกไปยังคลิปบอร์ดแล้ว
\frac{-8x^{2}+225x+450}{225}
แยกตัวประกอบ \frac{1}{225}
a+b=225 ab=-8\times 450=-3600
พิจารณา -8x^{2}+225x+450 แยกตัวประกอบนิพจน์โดยการจัดกลุ่ม ขั้นแรกนิพจน์จำเป็นต้องถูกเขียนใหม่เป็น -8x^{2}+ax+bx+450 เมื่อต้องการค้นหา a และ b ให้ตั้งค่าระบบเพื่อแก้
-1,3600 -2,1800 -3,1200 -4,900 -5,720 -6,600 -8,450 -9,400 -10,360 -12,300 -15,240 -16,225 -18,200 -20,180 -24,150 -25,144 -30,120 -36,100 -40,90 -45,80 -48,75 -50,72 -60,60
เนื่องจาก ab เป็นค่าลบ a และ b มีสัญลักษณ์ตรงข้ามกัน เนื่องจาก a+b เป็นบวกจำนวนบวกมีค่าสัมบูรณ์ที่มากกว่าจุดลบ แสดงรายการคู่จำนวนเต็มดังกล่าวทั้งหมดที่ให้ผลิตภัณฑ์ -3600
-1+3600=3599 -2+1800=1798 -3+1200=1197 -4+900=896 -5+720=715 -6+600=594 -8+450=442 -9+400=391 -10+360=350 -12+300=288 -15+240=225 -16+225=209 -18+200=182 -20+180=160 -24+150=126 -25+144=119 -30+120=90 -36+100=64 -40+90=50 -45+80=35 -48+75=27 -50+72=22 -60+60=0
คำนวณผลรวมสำหรับแต่ละคู่
a=240 b=-15
โซลูชันเป็นคู่ที่จะให้ผลรวม 225
\left(-8x^{2}+240x\right)+\left(-15x+450\right)
เขียน -8x^{2}+225x+450 ใหม่เป็น \left(-8x^{2}+240x\right)+\left(-15x+450\right)
8x\left(-x+30\right)+15\left(-x+30\right)
แยกตัวประกอบ 8x ในกลุ่มแรกและ 15 ใน
\left(-x+30\right)\left(8x+15\right)
แยกตัวประกอบของพจน์ร่วม -x+30 โดยใช้คุณสมบัติการแจกแจง
\frac{\left(-x+30\right)\left(8x+15\right)}{225}
เขียนนิพจน์ที่แยกตัวประกอบสมบูรณ์ใหม่
ตัวอย่าง
สมการกำลังสอง
{ x } ^ { 2 } - 4 x - 5 = 0
ตรีโกณมิติ
4 \sin \theta \cos \theta = 2 \sin \theta
สมการเชิงเส้น
y = 3x + 4
เลขคณิต
699 * 533
เมทริกซ์
\left[ \begin{array} { l l } { 2 } & { 3 } \\ { 5 } & { 4 } \end{array} \right] \left[ \begin{array} { l l l } { 2 } & { 0 } & { 3 } \\ { -1 } & { 1 } & { 5 } \end{array} \right]
สมการหลายชั้น
\left. \begin{cases} { 8x+2y = 46 } \\ { 7x+3y = 47 } \end{cases} \right.
การหาอนุพันธ์
\frac { d } { d x } \frac { ( 3 x ^ { 2 } - 2 ) } { ( x - 5 ) }
การหาปริพันธ์
\int _ { 0 } ^ { 1 } x e ^ { - x ^ { 2 } } d x
ลิมิต
\lim _{x \rightarrow-3} \frac{x^{2}-9}{x^{2}+2 x-3}