หาค่า b
b=-3
b=5
แชร์
คัดลอกไปยังคลิปบอร์ดแล้ว
b^{2}-15=2b
ลบ 15 จากทั้งสองด้าน
b^{2}-15-2b=0
ลบ 2b จากทั้งสองด้าน
b^{2}-2b-15=0
จัดเรียงพหุนามให้อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน วางตามลำดับจากดีกรีที่มากที่สุดไปหาน้อยที่สุด
a+b=-2 ab=-15
เมื่อต้องการแก้สมการปัจจัย b^{2}-2b-15 โดยใช้สูตร b^{2}+\left(a+b\right)b+ab=\left(b+a\right)\left(b+b\right) เมื่อต้องการค้นหา a และ b ให้ตั้งค่าระบบเพื่อแก้
1,-15 3,-5
เนื่องจาก ab เป็นค่าลบ a และ b มีสัญลักษณ์ตรงข้ามกัน เนื่องจาก a+b เป็นค่าลบตัวเลขค่าลบมีค่าสัมบูรณ์ที่มากกว่าจำนวนบวก แสดงรายการคู่จำนวนเต็มดังกล่าวทั้งหมดที่ให้ผลิตภัณฑ์ -15
1-15=-14 3-5=-2
คำนวณผลรวมสำหรับแต่ละคู่
a=-5 b=3
โซลูชันเป็นคู่ที่จะให้ผลรวม -2
\left(b-5\right)\left(b+3\right)
เขียนนิพจน์แยกตัวประกอบใหม่ \left(b+a\right)\left(b+b\right) โดยใช้ค่าที่ได้รับ
b=5 b=-3
เมื่อต้องการค้นหาโซลูชันสมการให้แก้ไข b-5=0 และ b+3=0
b^{2}-15=2b
ลบ 15 จากทั้งสองด้าน
b^{2}-15-2b=0
ลบ 2b จากทั้งสองด้าน
b^{2}-2b-15=0
จัดเรียงพหุนามให้อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน วางตามลำดับจากดีกรีที่มากที่สุดไปหาน้อยที่สุด
a+b=-2 ab=1\left(-15\right)=-15
เมื่อต้องการแก้สมการ ให้แยกตัวประกอบทางด้านซ้ายมือโดยการจัดกลุ่ม ขั้นแรกต้องเขียนด้านซ้ายมือใหม่เป็น b^{2}+ab+bb-15 เมื่อต้องการค้นหา a และ b ให้ตั้งค่าระบบเพื่อแก้
1,-15 3,-5
เนื่องจาก ab เป็นค่าลบ a และ b มีสัญลักษณ์ตรงข้ามกัน เนื่องจาก a+b เป็นค่าลบตัวเลขค่าลบมีค่าสัมบูรณ์ที่มากกว่าจำนวนบวก แสดงรายการคู่จำนวนเต็มดังกล่าวทั้งหมดที่ให้ผลิตภัณฑ์ -15
1-15=-14 3-5=-2
คำนวณผลรวมสำหรับแต่ละคู่
a=-5 b=3
โซลูชันเป็นคู่ที่จะให้ผลรวม -2
\left(b^{2}-5b\right)+\left(3b-15\right)
เขียน b^{2}-2b-15 ใหม่เป็น \left(b^{2}-5b\right)+\left(3b-15\right)
b\left(b-5\right)+3\left(b-5\right)
แยกตัวประกอบ b ในกลุ่มแรกและ 3 ใน
\left(b-5\right)\left(b+3\right)
แยกตัวประกอบของพจน์ร่วม b-5 โดยใช้คุณสมบัติการแจกแจง
b=5 b=-3
เมื่อต้องการค้นหาโซลูชันสมการให้แก้ไข b-5=0 และ b+3=0
b^{2}-15=2b
ลบ 15 จากทั้งสองด้าน
b^{2}-15-2b=0
ลบ 2b จากทั้งสองด้าน
b^{2}-2b-15=0
สมการทั้งหมดของรูปแบบ ax^{2}+bx+c=0 จะสามารถแก้ไขได้โดยใช้สูตรยกกำลัง: \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a} ได้ สูตรยกกำลังจะช่วยให้ได้รับสองผลเฉลย หนึ่งคือเมื่อ ± เป็นบวกและอีกหนึ่งคือเมื่อเป็นลบ
b=\frac{-\left(-2\right)±\sqrt{\left(-2\right)^{2}-4\left(-15\right)}}{2}
สมการนี้อยู่ในรูปมาตรฐาน: ax^{2}+bx+c=0 ใช้ 1 แทน a, -2 แทน b และ -15 แทน c ในสูตรกำลังสอง \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a}
b=\frac{-\left(-2\right)±\sqrt{4-4\left(-15\right)}}{2}
ยกกำลังสอง -2
b=\frac{-\left(-2\right)±\sqrt{4+60}}{2}
คูณ -4 ด้วย -15
b=\frac{-\left(-2\right)±\sqrt{64}}{2}
เพิ่ม 4 ไปยัง 60
b=\frac{-\left(-2\right)±8}{2}
หารากที่สองของ 64
b=\frac{2±8}{2}
ตรงข้ามกับ -2 คือ 2
b=\frac{10}{2}
ตอนนี้ แก้สมการ b=\frac{2±8}{2} เมื่อ ± เป็นบวก เพิ่ม 2 ไปยัง 8
b=5
หาร 10 ด้วย 2
b=-\frac{6}{2}
ตอนนี้ แก้สมการ b=\frac{2±8}{2} เมื่อ ± เป็นลบ ลบ 8 จาก 2
b=-3
หาร -6 ด้วย 2
b=5 b=-3
สมการได้รับการแก้ไขแล้ว
b^{2}-2b=15
ลบ 2b จากทั้งสองด้าน
b^{2}-2b+1=15+1
หาร -2 สัมประสิทธิ์ของพจน์ x ด้วย 2 เพื่อรับ -1 จากนั้นเพิ่มกำลังสองของ -1 ไปยังทั้งสองข้างของสมการ ขั้นตอนนี้จะทำให้ด้านซ้ายของสมการเป็นกำลังสองสมบูรณ์
b^{2}-2b+1=16
เพิ่ม 15 ไปยัง 1
\left(b-1\right)^{2}=16
ตัวประกอบb^{2}-2b+1 โดยทั่วไป แล้ว เมื่อx^{2}+bx+cเป็นกําลังสองสมบูรณ์ จะสามารถแยกตัวประกอบเป็น\left(x+\frac{b}{2}\right)^{2}ได้เสมอ
\sqrt{\left(b-1\right)^{2}}=\sqrt{16}
หารากที่สองของทั้งสองข้างของสมการ
b-1=4 b-1=-4
ทำให้ง่ายขึ้น
b=5 b=-3
เพิ่ม 1 ไปยังทั้งสองข้างของสมการ
ตัวอย่าง
สมการกำลังสอง
{ x } ^ { 2 } - 4 x - 5 = 0
ตรีโกณมิติ
4 \sin \theta \cos \theta = 2 \sin \theta
สมการเชิงเส้น
y = 3x + 4
เลขคณิต
699 * 533
เมทริกซ์
\left[ \begin{array} { l l } { 2 } & { 3 } \\ { 5 } & { 4 } \end{array} \right] \left[ \begin{array} { l l l } { 2 } & { 0 } & { 3 } \\ { -1 } & { 1 } & { 5 } \end{array} \right]
สมการหลายชั้น
\left. \begin{cases} { 8x+2y = 46 } \\ { 7x+3y = 47 } \end{cases} \right.
การหาอนุพันธ์
\frac { d } { d x } \frac { ( 3 x ^ { 2 } - 2 ) } { ( x - 5 ) }
การหาปริพันธ์
\int _ { 0 } ^ { 1 } x e ^ { - x ^ { 2 } } d x
ลิมิต
\lim _{x \rightarrow-3} \frac{x^{2}-9}{x^{2}+2 x-3}