หาค่า x
x = -\frac{7}{2} = -3\frac{1}{2} = -3.5
x=4
กราฟ
แชร์
คัดลอกไปยังคลิปบอร์ดแล้ว
2x\left(x+3\right)-7=7\left(x+3\right)
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ -3 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย x+3
2x^{2}+6x-7=7\left(x+3\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 2x ด้วย x+3
2x^{2}+6x-7=7x+21
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 7 ด้วย x+3
2x^{2}+6x-7-7x=21
ลบ 7x จากทั้งสองด้าน
2x^{2}-x-7=21
รวม 6x และ -7x เพื่อให้ได้รับ -x
2x^{2}-x-7-21=0
ลบ 21 จากทั้งสองด้าน
2x^{2}-x-28=0
ลบ 21 จาก -7 เพื่อรับ -28
x=\frac{-\left(-1\right)±\sqrt{1-4\times 2\left(-28\right)}}{2\times 2}
สมการนี้อยู่ในรูปมาตรฐาน: ax^{2}+bx+c=0 ใช้ 2 แทน a, -1 แทน b และ -28 แทน c ในสูตรกำลังสอง \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a}
x=\frac{-\left(-1\right)±\sqrt{1-8\left(-28\right)}}{2\times 2}
คูณ -4 ด้วย 2
x=\frac{-\left(-1\right)±\sqrt{1+224}}{2\times 2}
คูณ -8 ด้วย -28
x=\frac{-\left(-1\right)±\sqrt{225}}{2\times 2}
เพิ่ม 1 ไปยัง 224
x=\frac{-\left(-1\right)±15}{2\times 2}
หารากที่สองของ 225
x=\frac{1±15}{2\times 2}
ตรงข้ามกับ -1 คือ 1
x=\frac{1±15}{4}
คูณ 2 ด้วย 2
x=\frac{16}{4}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{1±15}{4} เมื่อ ± เป็นบวก เพิ่ม 1 ไปยัง 15
x=4
หาร 16 ด้วย 4
x=-\frac{14}{4}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{1±15}{4} เมื่อ ± เป็นลบ ลบ 15 จาก 1
x=-\frac{7}{2}
ทำเศษส่วน \frac{-14}{4} ให้เป็นพจน์ต่ำสุดโดยลดทอนด้วย 2
x=4 x=-\frac{7}{2}
สมการได้รับการแก้ไขแล้ว
2x\left(x+3\right)-7=7\left(x+3\right)
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ -3 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย x+3
2x^{2}+6x-7=7\left(x+3\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 2x ด้วย x+3
2x^{2}+6x-7=7x+21
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 7 ด้วย x+3
2x^{2}+6x-7-7x=21
ลบ 7x จากทั้งสองด้าน
2x^{2}-x-7=21
รวม 6x และ -7x เพื่อให้ได้รับ -x
2x^{2}-x=21+7
เพิ่ม 7 ไปทั้งสองด้าน
2x^{2}-x=28
เพิ่ม 21 และ 7 เพื่อให้ได้รับ 28
\frac{2x^{2}-x}{2}=\frac{28}{2}
หารทั้งสองข้างด้วย 2
x^{2}-\frac{1}{2}x=\frac{28}{2}
หารด้วย 2 เลิกทำการคูณด้วย 2
x^{2}-\frac{1}{2}x=14
หาร 28 ด้วย 2
x^{2}-\frac{1}{2}x+\left(-\frac{1}{4}\right)^{2}=14+\left(-\frac{1}{4}\right)^{2}
หาร -\frac{1}{2} สัมประสิทธิ์ของพจน์ x ด้วย 2 เพื่อรับ -\frac{1}{4} จากนั้นเพิ่มกำลังสองของ -\frac{1}{4} ไปยังทั้งสองข้างของสมการ ขั้นตอนนี้จะทำให้ด้านซ้ายของสมการเป็นกำลังสองสมบูรณ์
x^{2}-\frac{1}{2}x+\frac{1}{16}=14+\frac{1}{16}
ยกกำลังสอง -\frac{1}{4} โดยยกกำลังสองทั้งตัวเศษและตัวส่วนของเศษส่วน
x^{2}-\frac{1}{2}x+\frac{1}{16}=\frac{225}{16}
เพิ่ม 14 ไปยัง \frac{1}{16}
\left(x-\frac{1}{4}\right)^{2}=\frac{225}{16}
ตัวประกอบx^{2}-\frac{1}{2}x+\frac{1}{16} โดยทั่วไป แล้ว เมื่อx^{2}+bx+cเป็นกําลังสองสมบูรณ์ จะสามารถแยกตัวประกอบเป็น\left(x+\frac{b}{2}\right)^{2}ได้เสมอ
\sqrt{\left(x-\frac{1}{4}\right)^{2}}=\sqrt{\frac{225}{16}}
หารากที่สองของทั้งสองข้างของสมการ
x-\frac{1}{4}=\frac{15}{4} x-\frac{1}{4}=-\frac{15}{4}
ทำให้ง่ายขึ้น
x=4 x=-\frac{7}{2}
เพิ่ม \frac{1}{4} ไปยังทั้งสองข้างของสมการ
ตัวอย่าง
สมการกำลังสอง
{ x } ^ { 2 } - 4 x - 5 = 0
ตรีโกณมิติ
4 \sin \theta \cos \theta = 2 \sin \theta
สมการเชิงเส้น
y = 3x + 4
เลขคณิต
699 * 533
เมทริกซ์
\left[ \begin{array} { l l } { 2 } & { 3 } \\ { 5 } & { 4 } \end{array} \right] \left[ \begin{array} { l l l } { 2 } & { 0 } & { 3 } \\ { -1 } & { 1 } & { 5 } \end{array} \right]
สมการหลายชั้น
\left. \begin{cases} { 8x+2y = 46 } \\ { 7x+3y = 47 } \end{cases} \right.
การหาอนุพันธ์
\frac { d } { d x } \frac { ( 3 x ^ { 2 } - 2 ) } { ( x - 5 ) }
การหาปริพันธ์
\int _ { 0 } ^ { 1 } x e ^ { - x ^ { 2 } } d x
ลิมิต
\lim _{x \rightarrow-3} \frac{x^{2}-9}{x^{2}+2 x-3}