หาค่า x
x=\frac{\sqrt{34}}{20}-\frac{7}{5}\approx -1.108452405
x=-\frac{\sqrt{34}}{20}-\frac{7}{5}\approx -1.691547595
กราฟ
แชร์
คัดลอกไปยังคลิปบอร์ดแล้ว
2\left(3x+4\right)\times 2\left(x+1\right)-2\left(5x+2\right)\times 2\left(x+1\right)=3+4\left(4x+10\right)\times 2\left(x+1\right)
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ -1 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย 2\left(x+1\right)
4\left(3x+4\right)\left(x+1\right)-2\left(5x+2\right)\times 2\left(x+1\right)=3+4\left(4x+10\right)\times 2\left(x+1\right)
คูณ 2 และ 2 เพื่อรับ 4
\left(12x+16\right)\left(x+1\right)-2\left(5x+2\right)\times 2\left(x+1\right)=3+4\left(4x+10\right)\times 2\left(x+1\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 4 ด้วย 3x+4
12x^{2}+28x+16-2\left(5x+2\right)\times 2\left(x+1\right)=3+4\left(4x+10\right)\times 2\left(x+1\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 12x+16 ด้วย x+1 และรวมพจน์ที่เหมือนกัน
12x^{2}+28x+16-4\left(5x+2\right)\left(x+1\right)=3+4\left(4x+10\right)\times 2\left(x+1\right)
คูณ -2 และ 2 เพื่อรับ -4
12x^{2}+28x+16+\left(-20x-8\right)\left(x+1\right)=3+4\left(4x+10\right)\times 2\left(x+1\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ -4 ด้วย 5x+2
12x^{2}+28x+16-20x^{2}-28x-8=3+4\left(4x+10\right)\times 2\left(x+1\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ -20x-8 ด้วย x+1 และรวมพจน์ที่เหมือนกัน
-8x^{2}+28x+16-28x-8=3+4\left(4x+10\right)\times 2\left(x+1\right)
รวม 12x^{2} และ -20x^{2} เพื่อให้ได้รับ -8x^{2}
-8x^{2}+16-8=3+4\left(4x+10\right)\times 2\left(x+1\right)
รวม 28x และ -28x เพื่อให้ได้รับ 0
-8x^{2}+8=3+4\left(4x+10\right)\times 2\left(x+1\right)
ลบ 8 จาก 16 เพื่อรับ 8
-8x^{2}+8=3+8\left(4x+10\right)\left(x+1\right)
คูณ 4 และ 2 เพื่อรับ 8
-8x^{2}+8=3+\left(32x+80\right)\left(x+1\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 8 ด้วย 4x+10
-8x^{2}+8=3+32x^{2}+112x+80
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 32x+80 ด้วย x+1 และรวมพจน์ที่เหมือนกัน
-8x^{2}+8=83+32x^{2}+112x
เพิ่ม 3 และ 80 เพื่อให้ได้รับ 83
-8x^{2}+8-83=32x^{2}+112x
ลบ 83 จากทั้งสองด้าน
-8x^{2}-75=32x^{2}+112x
ลบ 83 จาก 8 เพื่อรับ -75
-8x^{2}-75-32x^{2}=112x
ลบ 32x^{2} จากทั้งสองด้าน
-40x^{2}-75=112x
รวม -8x^{2} และ -32x^{2} เพื่อให้ได้รับ -40x^{2}
-40x^{2}-75-112x=0
ลบ 112x จากทั้งสองด้าน
-40x^{2}-112x-75=0
สมการทั้งหมดของรูปแบบ ax^{2}+bx+c=0 จะสามารถแก้ไขได้โดยใช้สูตรยกกำลัง: \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a} ได้ สูตรยกกำลังจะช่วยให้ได้รับสองผลเฉลย หนึ่งคือเมื่อ ± เป็นบวกและอีกหนึ่งคือเมื่อเป็นลบ
x=\frac{-\left(-112\right)±\sqrt{\left(-112\right)^{2}-4\left(-40\right)\left(-75\right)}}{2\left(-40\right)}
สมการนี้อยู่ในรูปมาตรฐาน: ax^{2}+bx+c=0 ใช้ -40 แทน a, -112 แทน b และ -75 แทน c ในสูตรกำลังสอง \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a}
x=\frac{-\left(-112\right)±\sqrt{12544-4\left(-40\right)\left(-75\right)}}{2\left(-40\right)}
ยกกำลังสอง -112
x=\frac{-\left(-112\right)±\sqrt{12544+160\left(-75\right)}}{2\left(-40\right)}
คูณ -4 ด้วย -40
x=\frac{-\left(-112\right)±\sqrt{12544-12000}}{2\left(-40\right)}
คูณ 160 ด้วย -75
x=\frac{-\left(-112\right)±\sqrt{544}}{2\left(-40\right)}
เพิ่ม 12544 ไปยัง -12000
x=\frac{-\left(-112\right)±4\sqrt{34}}{2\left(-40\right)}
หารากที่สองของ 544
x=\frac{112±4\sqrt{34}}{2\left(-40\right)}
ตรงข้ามกับ -112 คือ 112
x=\frac{112±4\sqrt{34}}{-80}
คูณ 2 ด้วย -40
x=\frac{4\sqrt{34}+112}{-80}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{112±4\sqrt{34}}{-80} เมื่อ ± เป็นบวก เพิ่ม 112 ไปยัง 4\sqrt{34}
x=-\frac{\sqrt{34}}{20}-\frac{7}{5}
หาร 112+4\sqrt{34} ด้วย -80
x=\frac{112-4\sqrt{34}}{-80}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{112±4\sqrt{34}}{-80} เมื่อ ± เป็นลบ ลบ 4\sqrt{34} จาก 112
x=\frac{\sqrt{34}}{20}-\frac{7}{5}
หาร 112-4\sqrt{34} ด้วย -80
x=-\frac{\sqrt{34}}{20}-\frac{7}{5} x=\frac{\sqrt{34}}{20}-\frac{7}{5}
สมการได้รับการแก้ไขแล้ว
2\left(3x+4\right)\times 2\left(x+1\right)-2\left(5x+2\right)\times 2\left(x+1\right)=3+4\left(4x+10\right)\times 2\left(x+1\right)
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ -1 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย 2\left(x+1\right)
4\left(3x+4\right)\left(x+1\right)-2\left(5x+2\right)\times 2\left(x+1\right)=3+4\left(4x+10\right)\times 2\left(x+1\right)
คูณ 2 และ 2 เพื่อรับ 4
\left(12x+16\right)\left(x+1\right)-2\left(5x+2\right)\times 2\left(x+1\right)=3+4\left(4x+10\right)\times 2\left(x+1\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 4 ด้วย 3x+4
12x^{2}+28x+16-2\left(5x+2\right)\times 2\left(x+1\right)=3+4\left(4x+10\right)\times 2\left(x+1\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 12x+16 ด้วย x+1 และรวมพจน์ที่เหมือนกัน
12x^{2}+28x+16-4\left(5x+2\right)\left(x+1\right)=3+4\left(4x+10\right)\times 2\left(x+1\right)
คูณ -2 และ 2 เพื่อรับ -4
12x^{2}+28x+16+\left(-20x-8\right)\left(x+1\right)=3+4\left(4x+10\right)\times 2\left(x+1\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ -4 ด้วย 5x+2
12x^{2}+28x+16-20x^{2}-28x-8=3+4\left(4x+10\right)\times 2\left(x+1\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ -20x-8 ด้วย x+1 และรวมพจน์ที่เหมือนกัน
-8x^{2}+28x+16-28x-8=3+4\left(4x+10\right)\times 2\left(x+1\right)
รวม 12x^{2} และ -20x^{2} เพื่อให้ได้รับ -8x^{2}
-8x^{2}+16-8=3+4\left(4x+10\right)\times 2\left(x+1\right)
รวม 28x และ -28x เพื่อให้ได้รับ 0
-8x^{2}+8=3+4\left(4x+10\right)\times 2\left(x+1\right)
ลบ 8 จาก 16 เพื่อรับ 8
-8x^{2}+8=3+8\left(4x+10\right)\left(x+1\right)
คูณ 4 และ 2 เพื่อรับ 8
-8x^{2}+8=3+\left(32x+80\right)\left(x+1\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 8 ด้วย 4x+10
-8x^{2}+8=3+32x^{2}+112x+80
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 32x+80 ด้วย x+1 และรวมพจน์ที่เหมือนกัน
-8x^{2}+8=83+32x^{2}+112x
เพิ่ม 3 และ 80 เพื่อให้ได้รับ 83
-8x^{2}+8-32x^{2}=83+112x
ลบ 32x^{2} จากทั้งสองด้าน
-40x^{2}+8=83+112x
รวม -8x^{2} และ -32x^{2} เพื่อให้ได้รับ -40x^{2}
-40x^{2}+8-112x=83
ลบ 112x จากทั้งสองด้าน
-40x^{2}-112x=83-8
ลบ 8 จากทั้งสองด้าน
-40x^{2}-112x=75
ลบ 8 จาก 83 เพื่อรับ 75
\frac{-40x^{2}-112x}{-40}=\frac{75}{-40}
หารทั้งสองข้างด้วย -40
x^{2}+\left(-\frac{112}{-40}\right)x=\frac{75}{-40}
หารด้วย -40 เลิกทำการคูณด้วย -40
x^{2}+\frac{14}{5}x=\frac{75}{-40}
ทำเศษส่วน \frac{-112}{-40} ให้เป็นพจน์ต่ำสุดโดยลดทอนด้วย 8
x^{2}+\frac{14}{5}x=-\frac{15}{8}
ทำเศษส่วน \frac{75}{-40} ให้เป็นพจน์ต่ำสุดโดยลดทอนด้วย 5
x^{2}+\frac{14}{5}x+\left(\frac{7}{5}\right)^{2}=-\frac{15}{8}+\left(\frac{7}{5}\right)^{2}
หาร \frac{14}{5} สัมประสิทธิ์ของพจน์ x ด้วย 2 เพื่อรับ \frac{7}{5} จากนั้นเพิ่มกำลังสองของ \frac{7}{5} ไปยังทั้งสองข้างของสมการ ขั้นตอนนี้จะทำให้ด้านซ้ายของสมการเป็นกำลังสองสมบูรณ์
x^{2}+\frac{14}{5}x+\frac{49}{25}=-\frac{15}{8}+\frac{49}{25}
ยกกำลังสอง \frac{7}{5} โดยยกกำลังสองทั้งตัวเศษและตัวส่วนของเศษส่วน
x^{2}+\frac{14}{5}x+\frac{49}{25}=\frac{17}{200}
เพิ่ม -\frac{15}{8} ไปยัง \frac{49}{25} ด้วยการค้นหาตัวส่วนทั่วไปและเพิ่มตัวเศษ แล้ว ลดเศษส่วนให้เป็นพจน์ต่ำที่สุดถ้าเป็นไปได้
\left(x+\frac{7}{5}\right)^{2}=\frac{17}{200}
ตัวประกอบx^{2}+\frac{14}{5}x+\frac{49}{25} โดยทั่วไป แล้ว เมื่อx^{2}+bx+cเป็นกําลังสองสมบูรณ์ จะสามารถแยกตัวประกอบเป็น\left(x+\frac{b}{2}\right)^{2}ได้เสมอ
\sqrt{\left(x+\frac{7}{5}\right)^{2}}=\sqrt{\frac{17}{200}}
หารากที่สองของทั้งสองข้างของสมการ
x+\frac{7}{5}=\frac{\sqrt{34}}{20} x+\frac{7}{5}=-\frac{\sqrt{34}}{20}
ทำให้ง่ายขึ้น
x=\frac{\sqrt{34}}{20}-\frac{7}{5} x=-\frac{\sqrt{34}}{20}-\frac{7}{5}
ลบ \frac{7}{5} จากทั้งสองข้างของสมการ
ตัวอย่าง
สมการกำลังสอง
{ x } ^ { 2 } - 4 x - 5 = 0
ตรีโกณมิติ
4 \sin \theta \cos \theta = 2 \sin \theta
สมการเชิงเส้น
y = 3x + 4
เลขคณิต
699 * 533
เมทริกซ์
\left[ \begin{array} { l l } { 2 } & { 3 } \\ { 5 } & { 4 } \end{array} \right] \left[ \begin{array} { l l l } { 2 } & { 0 } & { 3 } \\ { -1 } & { 1 } & { 5 } \end{array} \right]
สมการหลายชั้น
\left. \begin{cases} { 8x+2y = 46 } \\ { 7x+3y = 47 } \end{cases} \right.
การหาอนุพันธ์
\frac { d } { d x } \frac { ( 3 x ^ { 2 } - 2 ) } { ( x - 5 ) }
การหาปริพันธ์
\int _ { 0 } ^ { 1 } x e ^ { - x ^ { 2 } } d x
ลิมิต
\lim _{x \rightarrow-3} \frac{x^{2}-9}{x^{2}+2 x-3}