หาค่า x
x=\frac{1}{4}=0.25
x = -\frac{9}{4} = -2\frac{1}{4} = -2.25
กราฟ
แชร์
คัดลอกไปยังคลิปบอร์ดแล้ว
128\left(1+x\right)^{2}=200
คูณ 1+x และ 1+x เพื่อรับ \left(1+x\right)^{2}
128\left(1+2x+x^{2}\right)=200
ใช้ทฤษฎีบททวินาม \left(a+b\right)^{2}=a^{2}+2ab+b^{2} เพื่อขยาย \left(1+x\right)^{2}
128+256x+128x^{2}=200
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 128 ด้วย 1+2x+x^{2}
128+256x+128x^{2}-200=0
ลบ 200 จากทั้งสองด้าน
-72+256x+128x^{2}=0
ลบ 200 จาก 128 เพื่อรับ -72
128x^{2}+256x-72=0
สมการทั้งหมดของรูปแบบ ax^{2}+bx+c=0 จะสามารถแก้ไขได้โดยใช้สูตรยกกำลัง: \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a} ได้ สูตรยกกำลังจะช่วยให้ได้รับสองผลเฉลย หนึ่งคือเมื่อ ± เป็นบวกและอีกหนึ่งคือเมื่อเป็นลบ
x=\frac{-256±\sqrt{256^{2}-4\times 128\left(-72\right)}}{2\times 128}
สมการนี้อยู่ในรูปมาตรฐาน: ax^{2}+bx+c=0 ใช้ 128 แทน a, 256 แทน b และ -72 แทน c ในสูตรกำลังสอง \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a}
x=\frac{-256±\sqrt{65536-4\times 128\left(-72\right)}}{2\times 128}
ยกกำลังสอง 256
x=\frac{-256±\sqrt{65536-512\left(-72\right)}}{2\times 128}
คูณ -4 ด้วย 128
x=\frac{-256±\sqrt{65536+36864}}{2\times 128}
คูณ -512 ด้วย -72
x=\frac{-256±\sqrt{102400}}{2\times 128}
เพิ่ม 65536 ไปยัง 36864
x=\frac{-256±320}{2\times 128}
หารากที่สองของ 102400
x=\frac{-256±320}{256}
คูณ 2 ด้วย 128
x=\frac{64}{256}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{-256±320}{256} เมื่อ ± เป็นบวก เพิ่ม -256 ไปยัง 320
x=\frac{1}{4}
ทำเศษส่วน \frac{64}{256} ให้เป็นพจน์ต่ำสุดโดยลดทอนด้วย 64
x=-\frac{576}{256}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{-256±320}{256} เมื่อ ± เป็นลบ ลบ 320 จาก -256
x=-\frac{9}{4}
ทำเศษส่วน \frac{-576}{256} ให้เป็นพจน์ต่ำสุดโดยลดทอนด้วย 64
x=\frac{1}{4} x=-\frac{9}{4}
สมการได้รับการแก้ไขแล้ว
128\left(1+x\right)^{2}=200
คูณ 1+x และ 1+x เพื่อรับ \left(1+x\right)^{2}
128\left(1+2x+x^{2}\right)=200
ใช้ทฤษฎีบททวินาม \left(a+b\right)^{2}=a^{2}+2ab+b^{2} เพื่อขยาย \left(1+x\right)^{2}
128+256x+128x^{2}=200
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 128 ด้วย 1+2x+x^{2}
256x+128x^{2}=200-128
ลบ 128 จากทั้งสองด้าน
256x+128x^{2}=72
ลบ 128 จาก 200 เพื่อรับ 72
128x^{2}+256x=72
สมการกำลังสองเช่นนี้จะสามารถหาค่าได้ ด้วยการทำให้เป็นกำลังสองสมบูรณ์ ในการทำให้เป็นกำลังสองสมบูรณ์ ขั้นแรกสมการต้องอยู่ในรูปแบบ x^{2}+bx=c
\frac{128x^{2}+256x}{128}=\frac{72}{128}
หารทั้งสองข้างด้วย 128
x^{2}+\frac{256}{128}x=\frac{72}{128}
หารด้วย 128 เลิกทำการคูณด้วย 128
x^{2}+2x=\frac{72}{128}
หาร 256 ด้วย 128
x^{2}+2x=\frac{9}{16}
ทำเศษส่วน \frac{72}{128} ให้เป็นพจน์ต่ำสุดโดยลดทอนด้วย 8
x^{2}+2x+1^{2}=\frac{9}{16}+1^{2}
หาร 2 สัมประสิทธิ์ของพจน์ x ด้วย 2 เพื่อรับ 1 จากนั้นเพิ่มกำลังสองของ 1 ไปยังทั้งสองข้างของสมการ ขั้นตอนนี้จะทำให้ด้านซ้ายของสมการเป็นกำลังสองสมบูรณ์
x^{2}+2x+1=\frac{9}{16}+1
ยกกำลังสอง 1
x^{2}+2x+1=\frac{25}{16}
เพิ่ม \frac{9}{16} ไปยัง 1
\left(x+1\right)^{2}=\frac{25}{16}
ตัวประกอบx^{2}+2x+1 โดยทั่วไป แล้ว เมื่อx^{2}+bx+cเป็นกําลังสองสมบูรณ์ จะสามารถแยกตัวประกอบเป็น\left(x+\frac{b}{2}\right)^{2}ได้เสมอ
\sqrt{\left(x+1\right)^{2}}=\sqrt{\frac{25}{16}}
หารากที่สองของทั้งสองข้างของสมการ
x+1=\frac{5}{4} x+1=-\frac{5}{4}
ทำให้ง่ายขึ้น
x=\frac{1}{4} x=-\frac{9}{4}
ลบ 1 จากทั้งสองข้างของสมการ
ตัวอย่าง
สมการกำลังสอง
{ x } ^ { 2 } - 4 x - 5 = 0
ตรีโกณมิติ
4 \sin \theta \cos \theta = 2 \sin \theta
สมการเชิงเส้น
y = 3x + 4
เลขคณิต
699 * 533
เมทริกซ์
\left[ \begin{array} { l l } { 2 } & { 3 } \\ { 5 } & { 4 } \end{array} \right] \left[ \begin{array} { l l l } { 2 } & { 0 } & { 3 } \\ { -1 } & { 1 } & { 5 } \end{array} \right]
สมการหลายชั้น
\left. \begin{cases} { 8x+2y = 46 } \\ { 7x+3y = 47 } \end{cases} \right.
การหาอนุพันธ์
\frac { d } { d x } \frac { ( 3 x ^ { 2 } - 2 ) } { ( x - 5 ) }
การหาปริพันธ์
\int _ { 0 } ^ { 1 } x e ^ { - x ^ { 2 } } d x
ลิมิต
\lim _{x \rightarrow-3} \frac{x^{2}-9}{x^{2}+2 x-3}