หาค่า x
x=-\frac{151}{780}\approx -0.193589744
กราฟ
แชร์
คัดลอกไปยังคลิปบอร์ดแล้ว
-793xx+9\left(x-15\right)x+4\left(x-4\right)x=0
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ 0 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย x
-793x^{2}+9\left(x-15\right)x+4\left(x-4\right)x=0
คูณ x และ x เพื่อรับ x^{2}
-793x^{2}+\left(9x-135\right)x+4\left(x-4\right)x=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 9 ด้วย x-15
-793x^{2}+9x^{2}-135x+4\left(x-4\right)x=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 9x-135 ด้วย x
-784x^{2}-135x+4\left(x-4\right)x=0
รวม -793x^{2} และ 9x^{2} เพื่อให้ได้รับ -784x^{2}
-784x^{2}-135x+\left(4x-16\right)x=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 4 ด้วย x-4
-784x^{2}-135x+4x^{2}-16x=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 4x-16 ด้วย x
-780x^{2}-135x-16x=0
รวม -784x^{2} และ 4x^{2} เพื่อให้ได้รับ -780x^{2}
-780x^{2}-151x=0
รวม -135x และ -16x เพื่อให้ได้รับ -151x
x\left(-780x-151\right)=0
แยกตัวประกอบ x
x=0 x=-\frac{151}{780}
เมื่อต้องการค้นหาโซลูชันสมการให้แก้ไข x=0 และ -780x-151=0
x=-\frac{151}{780}
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ 0
-793xx+9\left(x-15\right)x+4\left(x-4\right)x=0
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ 0 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย x
-793x^{2}+9\left(x-15\right)x+4\left(x-4\right)x=0
คูณ x และ x เพื่อรับ x^{2}
-793x^{2}+\left(9x-135\right)x+4\left(x-4\right)x=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 9 ด้วย x-15
-793x^{2}+9x^{2}-135x+4\left(x-4\right)x=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 9x-135 ด้วย x
-784x^{2}-135x+4\left(x-4\right)x=0
รวม -793x^{2} และ 9x^{2} เพื่อให้ได้รับ -784x^{2}
-784x^{2}-135x+\left(4x-16\right)x=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 4 ด้วย x-4
-784x^{2}-135x+4x^{2}-16x=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 4x-16 ด้วย x
-780x^{2}-135x-16x=0
รวม -784x^{2} และ 4x^{2} เพื่อให้ได้รับ -780x^{2}
-780x^{2}-151x=0
รวม -135x และ -16x เพื่อให้ได้รับ -151x
x=\frac{-\left(-151\right)±\sqrt{\left(-151\right)^{2}}}{2\left(-780\right)}
สมการนี้อยู่ในรูปมาตรฐาน: ax^{2}+bx+c=0 ใช้ -780 แทน a, -151 แทน b และ 0 แทน c ในสูตรกำลังสอง \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a}
x=\frac{-\left(-151\right)±151}{2\left(-780\right)}
หารากที่สองของ \left(-151\right)^{2}
x=\frac{151±151}{2\left(-780\right)}
ตรงข้ามกับ -151 คือ 151
x=\frac{151±151}{-1560}
คูณ 2 ด้วย -780
x=\frac{302}{-1560}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{151±151}{-1560} เมื่อ ± เป็นบวก เพิ่ม 151 ไปยัง 151
x=-\frac{151}{780}
ทำเศษส่วน \frac{302}{-1560} ให้เป็นพจน์ต่ำสุดโดยลดทอนด้วย 2
x=\frac{0}{-1560}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{151±151}{-1560} เมื่อ ± เป็นลบ ลบ 151 จาก 151
x=0
หาร 0 ด้วย -1560
x=-\frac{151}{780} x=0
สมการได้รับการแก้ไขแล้ว
x=-\frac{151}{780}
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ 0
-793xx+9\left(x-15\right)x+4\left(x-4\right)x=0
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ 0 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย x
-793x^{2}+9\left(x-15\right)x+4\left(x-4\right)x=0
คูณ x และ x เพื่อรับ x^{2}
-793x^{2}+\left(9x-135\right)x+4\left(x-4\right)x=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 9 ด้วย x-15
-793x^{2}+9x^{2}-135x+4\left(x-4\right)x=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 9x-135 ด้วย x
-784x^{2}-135x+4\left(x-4\right)x=0
รวม -793x^{2} และ 9x^{2} เพื่อให้ได้รับ -784x^{2}
-784x^{2}-135x+\left(4x-16\right)x=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 4 ด้วย x-4
-784x^{2}-135x+4x^{2}-16x=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 4x-16 ด้วย x
-780x^{2}-135x-16x=0
รวม -784x^{2} และ 4x^{2} เพื่อให้ได้รับ -780x^{2}
-780x^{2}-151x=0
รวม -135x และ -16x เพื่อให้ได้รับ -151x
\frac{-780x^{2}-151x}{-780}=\frac{0}{-780}
หารทั้งสองข้างด้วย -780
x^{2}+\left(-\frac{151}{-780}\right)x=\frac{0}{-780}
หารด้วย -780 เลิกทำการคูณด้วย -780
x^{2}+\frac{151}{780}x=\frac{0}{-780}
หาร -151 ด้วย -780
x^{2}+\frac{151}{780}x=0
หาร 0 ด้วย -780
x^{2}+\frac{151}{780}x+\left(\frac{151}{1560}\right)^{2}=\left(\frac{151}{1560}\right)^{2}
หาร \frac{151}{780} สัมประสิทธิ์ของพจน์ x ด้วย 2 เพื่อรับ \frac{151}{1560} จากนั้นเพิ่มกำลังสองของ \frac{151}{1560} ไปยังทั้งสองข้างของสมการ ขั้นตอนนี้จะทำให้ด้านซ้ายของสมการเป็นกำลังสองสมบูรณ์
x^{2}+\frac{151}{780}x+\frac{22801}{2433600}=\frac{22801}{2433600}
ยกกำลังสอง \frac{151}{1560} โดยยกกำลังสองทั้งตัวเศษและตัวส่วนของเศษส่วน
\left(x+\frac{151}{1560}\right)^{2}=\frac{22801}{2433600}
ตัวประกอบx^{2}+\frac{151}{780}x+\frac{22801}{2433600} โดยทั่วไป แล้ว เมื่อx^{2}+bx+cเป็นกําลังสองสมบูรณ์ จะสามารถแยกตัวประกอบเป็น\left(x+\frac{b}{2}\right)^{2}ได้เสมอ
\sqrt{\left(x+\frac{151}{1560}\right)^{2}}=\sqrt{\frac{22801}{2433600}}
หารากที่สองของทั้งสองข้างของสมการ
x+\frac{151}{1560}=\frac{151}{1560} x+\frac{151}{1560}=-\frac{151}{1560}
ทำให้ง่ายขึ้น
x=0 x=-\frac{151}{780}
ลบ \frac{151}{1560} จากทั้งสองข้างของสมการ
x=-\frac{151}{780}
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ 0
ตัวอย่าง
สมการกำลังสอง
{ x } ^ { 2 } - 4 x - 5 = 0
ตรีโกณมิติ
4 \sin \theta \cos \theta = 2 \sin \theta
สมการเชิงเส้น
y = 3x + 4
เลขคณิต
699 * 533
เมทริกซ์
\left[ \begin{array} { l l } { 2 } & { 3 } \\ { 5 } & { 4 } \end{array} \right] \left[ \begin{array} { l l l } { 2 } & { 0 } & { 3 } \\ { -1 } & { 1 } & { 5 } \end{array} \right]
สมการหลายชั้น
\left. \begin{cases} { 8x+2y = 46 } \\ { 7x+3y = 47 } \end{cases} \right.
การหาอนุพันธ์
\frac { d } { d x } \frac { ( 3 x ^ { 2 } - 2 ) } { ( x - 5 ) }
การหาปริพันธ์
\int _ { 0 } ^ { 1 } x e ^ { - x ^ { 2 } } d x
ลิมิต
\lim _{x \rightarrow-3} \frac{x^{2}-9}{x^{2}+2 x-3}