ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
หาค่า x
Tick mark Image
กราฟ

โจทย์ปัญหาที่คล้ายคลึงกันจากการค้นหาในเว็บ

แชร์

16x^{2}+48x+36=2x+3
ใช้ทฤษฎีบททวินาม \left(a+b\right)^{2}=a^{2}+2ab+b^{2} เพื่อขยาย \left(4x+6\right)^{2}
16x^{2}+48x+36-2x=3
ลบ 2x จากทั้งสองด้าน
16x^{2}+46x+36=3
รวม 48x และ -2x เพื่อให้ได้รับ 46x
16x^{2}+46x+36-3=0
ลบ 3 จากทั้งสองด้าน
16x^{2}+46x+33=0
ลบ 3 จาก 36 เพื่อรับ 33
a+b=46 ab=16\times 33=528
เมื่อต้องการแก้สมการ ให้แยกตัวประกอบทางด้านซ้ายมือโดยการจัดกลุ่ม ขั้นแรกต้องเขียนด้านซ้ายมือใหม่เป็น 16x^{2}+ax+bx+33 เมื่อต้องการค้นหา a และ b ให้ตั้งค่าระบบเพื่อแก้
1,528 2,264 3,176 4,132 6,88 8,66 11,48 12,44 16,33 22,24
เนื่องจาก ab เป็นค่าบวก a และ b มีเครื่องหมายเดียวกัน เนื่องจาก a+b เป็นบวก a และ b เป็นค่าบวกทั้งคู่ แสดงรายการคู่จำนวนเต็มดังกล่าวทั้งหมดที่ให้ผลิตภัณฑ์ 528
1+528=529 2+264=266 3+176=179 4+132=136 6+88=94 8+66=74 11+48=59 12+44=56 16+33=49 22+24=46
คำนวณผลรวมสำหรับแต่ละคู่
a=22 b=24
โซลูชันเป็นคู่ที่จะให้ผลรวม 46
\left(16x^{2}+22x\right)+\left(24x+33\right)
เขียน 16x^{2}+46x+33 ใหม่เป็น \left(16x^{2}+22x\right)+\left(24x+33\right)
2x\left(8x+11\right)+3\left(8x+11\right)
แยกตัวประกอบ 2x ในกลุ่มแรกและ 3 ใน
\left(8x+11\right)\left(2x+3\right)
แยกตัวประกอบของพจน์ร่วม 8x+11 โดยใช้คุณสมบัติการแจกแจง
x=-\frac{11}{8} x=-\frac{3}{2}
เมื่อต้องการค้นหาโซลูชันสมการให้แก้ไข 8x+11=0 และ 2x+3=0
16x^{2}+48x+36=2x+3
ใช้ทฤษฎีบททวินาม \left(a+b\right)^{2}=a^{2}+2ab+b^{2} เพื่อขยาย \left(4x+6\right)^{2}
16x^{2}+48x+36-2x=3
ลบ 2x จากทั้งสองด้าน
16x^{2}+46x+36=3
รวม 48x และ -2x เพื่อให้ได้รับ 46x
16x^{2}+46x+36-3=0
ลบ 3 จากทั้งสองด้าน
16x^{2}+46x+33=0
ลบ 3 จาก 36 เพื่อรับ 33
x=\frac{-46±\sqrt{46^{2}-4\times 16\times 33}}{2\times 16}
สมการนี้อยู่ในรูปมาตรฐาน: ax^{2}+bx+c=0 ใช้ 16 แทน a, 46 แทน b และ 33 แทน c ในสูตรกำลังสอง \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a}
x=\frac{-46±\sqrt{2116-4\times 16\times 33}}{2\times 16}
ยกกำลังสอง 46
x=\frac{-46±\sqrt{2116-64\times 33}}{2\times 16}
คูณ -4 ด้วย 16
x=\frac{-46±\sqrt{2116-2112}}{2\times 16}
คูณ -64 ด้วย 33
x=\frac{-46±\sqrt{4}}{2\times 16}
เพิ่ม 2116 ไปยัง -2112
x=\frac{-46±2}{2\times 16}
หารากที่สองของ 4
x=\frac{-46±2}{32}
คูณ 2 ด้วย 16
x=-\frac{44}{32}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{-46±2}{32} เมื่อ ± เป็นบวก เพิ่ม -46 ไปยัง 2
x=-\frac{11}{8}
ทำเศษส่วน \frac{-44}{32} ให้เป็นพจน์ต่ำสุดโดยลดทอนด้วย 4
x=-\frac{48}{32}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{-46±2}{32} เมื่อ ± เป็นลบ ลบ 2 จาก -46
x=-\frac{3}{2}
ทำเศษส่วน \frac{-48}{32} ให้เป็นพจน์ต่ำสุดโดยลดทอนด้วย 16
x=-\frac{11}{8} x=-\frac{3}{2}
สมการได้รับการแก้ไขแล้ว
16x^{2}+48x+36=2x+3
ใช้ทฤษฎีบททวินาม \left(a+b\right)^{2}=a^{2}+2ab+b^{2} เพื่อขยาย \left(4x+6\right)^{2}
16x^{2}+48x+36-2x=3
ลบ 2x จากทั้งสองด้าน
16x^{2}+46x+36=3
รวม 48x และ -2x เพื่อให้ได้รับ 46x
16x^{2}+46x=3-36
ลบ 36 จากทั้งสองด้าน
16x^{2}+46x=-33
ลบ 36 จาก 3 เพื่อรับ -33
\frac{16x^{2}+46x}{16}=-\frac{33}{16}
หารทั้งสองข้างด้วย 16
x^{2}+\frac{46}{16}x=-\frac{33}{16}
หารด้วย 16 เลิกทำการคูณด้วย 16
x^{2}+\frac{23}{8}x=-\frac{33}{16}
ทำเศษส่วน \frac{46}{16} ให้เป็นพจน์ต่ำสุดโดยลดทอนด้วย 2
x^{2}+\frac{23}{8}x+\left(\frac{23}{16}\right)^{2}=-\frac{33}{16}+\left(\frac{23}{16}\right)^{2}
หาร \frac{23}{8} สัมประสิทธิ์ของพจน์ x ด้วย 2 เพื่อรับ \frac{23}{16} จากนั้นเพิ่มกำลังสองของ \frac{23}{16} ไปยังทั้งสองข้างของสมการ ขั้นตอนนี้จะทำให้ด้านซ้ายของสมการเป็นกำลังสองสมบูรณ์
x^{2}+\frac{23}{8}x+\frac{529}{256}=-\frac{33}{16}+\frac{529}{256}
ยกกำลังสอง \frac{23}{16} โดยยกกำลังสองทั้งตัวเศษและตัวส่วนของเศษส่วน
x^{2}+\frac{23}{8}x+\frac{529}{256}=\frac{1}{256}
เพิ่ม -\frac{33}{16} ไปยัง \frac{529}{256} ด้วยการค้นหาตัวส่วนทั่วไปและเพิ่มตัวเศษ แล้ว ลดเศษส่วนให้เป็นพจน์ต่ำที่สุดถ้าเป็นไปได้
\left(x+\frac{23}{16}\right)^{2}=\frac{1}{256}
ตัวประกอบx^{2}+\frac{23}{8}x+\frac{529}{256} โดยทั่วไป แล้ว เมื่อx^{2}+bx+cเป็นกําลังสองสมบูรณ์ จะสามารถแยกตัวประกอบเป็น\left(x+\frac{b}{2}\right)^{2}ได้เสมอ
\sqrt{\left(x+\frac{23}{16}\right)^{2}}=\sqrt{\frac{1}{256}}
หารากที่สองของทั้งสองข้างของสมการ
x+\frac{23}{16}=\frac{1}{16} x+\frac{23}{16}=-\frac{1}{16}
ทำให้ง่ายขึ้น
x=-\frac{11}{8} x=-\frac{3}{2}
ลบ \frac{23}{16} จากทั้งสองข้างของสมการ