หาค่า x
x=-7
x=4
กราฟ
แชร์
คัดลอกไปยังคลิปบอร์ดแล้ว
2x^{3}-32x+3x^{2}-48+\left(x-4\right)\left(x+40\right)=2\left(x-4\right)\left(x^{2}-16\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 2x+3 ด้วย x^{2}-16
2x^{3}-32x+3x^{2}-48+x^{2}+36x-160=2\left(x-4\right)\left(x^{2}-16\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x-4 ด้วย x+40 และรวมพจน์ที่เหมือนกัน
2x^{3}-32x+4x^{2}-48+36x-160=2\left(x-4\right)\left(x^{2}-16\right)
รวม 3x^{2} และ x^{2} เพื่อให้ได้รับ 4x^{2}
2x^{3}+4x+4x^{2}-48-160=2\left(x-4\right)\left(x^{2}-16\right)
รวม -32x และ 36x เพื่อให้ได้รับ 4x
2x^{3}+4x+4x^{2}-208=2\left(x-4\right)\left(x^{2}-16\right)
ลบ 160 จาก -48 เพื่อรับ -208
2x^{3}+4x+4x^{2}-208=\left(2x-8\right)\left(x^{2}-16\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 2 ด้วย x-4
2x^{3}+4x+4x^{2}-208=2x^{3}-32x-8x^{2}+128
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 2x-8 ด้วย x^{2}-16
2x^{3}+4x+4x^{2}-208-2x^{3}=-32x-8x^{2}+128
ลบ 2x^{3} จากทั้งสองด้าน
4x+4x^{2}-208=-32x-8x^{2}+128
รวม 2x^{3} และ -2x^{3} เพื่อให้ได้รับ 0
4x+4x^{2}-208+32x=-8x^{2}+128
เพิ่ม 32x ไปทั้งสองด้าน
36x+4x^{2}-208=-8x^{2}+128
รวม 4x และ 32x เพื่อให้ได้รับ 36x
36x+4x^{2}-208+8x^{2}=128
เพิ่ม 8x^{2} ไปทั้งสองด้าน
36x+12x^{2}-208=128
รวม 4x^{2} และ 8x^{2} เพื่อให้ได้รับ 12x^{2}
36x+12x^{2}-208-128=0
ลบ 128 จากทั้งสองด้าน
36x+12x^{2}-336=0
ลบ 128 จาก -208 เพื่อรับ -336
3x+x^{2}-28=0
หารทั้งสองข้างด้วย 12
x^{2}+3x-28=0
จัดเรียงพหุนามให้อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน วางตามลำดับจากดีกรีที่มากที่สุดไปหาน้อยที่สุด
a+b=3 ab=1\left(-28\right)=-28
เมื่อต้องการแก้สมการ ให้แยกตัวประกอบทางด้านซ้ายมือโดยการจัดกลุ่ม ขั้นแรกต้องเขียนด้านซ้ายมือใหม่เป็น x^{2}+ax+bx-28 เมื่อต้องการค้นหา a และ b ให้ตั้งค่าระบบเพื่อแก้
-1,28 -2,14 -4,7
เนื่องจาก ab เป็นค่าลบ a และ b มีสัญลักษณ์ตรงข้ามกัน เนื่องจาก a+b เป็นบวกจำนวนบวกมีค่าสัมบูรณ์ที่มากกว่าจุดลบ แสดงรายการคู่จำนวนเต็มดังกล่าวทั้งหมดที่ให้ผลิตภัณฑ์ -28
-1+28=27 -2+14=12 -4+7=3
คำนวณผลรวมสำหรับแต่ละคู่
a=-4 b=7
โซลูชันเป็นคู่ที่จะให้ผลรวม 3
\left(x^{2}-4x\right)+\left(7x-28\right)
เขียน x^{2}+3x-28 ใหม่เป็น \left(x^{2}-4x\right)+\left(7x-28\right)
x\left(x-4\right)+7\left(x-4\right)
แยกตัวประกอบ x ในกลุ่มแรกและ 7 ใน
\left(x-4\right)\left(x+7\right)
แยกตัวประกอบของพจน์ร่วม x-4 โดยใช้คุณสมบัติการแจกแจง
x=4 x=-7
เมื่อต้องการค้นหาโซลูชันสมการให้แก้ไข x-4=0 และ x+7=0
2x^{3}-32x+3x^{2}-48+\left(x-4\right)\left(x+40\right)=2\left(x-4\right)\left(x^{2}-16\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 2x+3 ด้วย x^{2}-16
2x^{3}-32x+3x^{2}-48+x^{2}+36x-160=2\left(x-4\right)\left(x^{2}-16\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x-4 ด้วย x+40 และรวมพจน์ที่เหมือนกัน
2x^{3}-32x+4x^{2}-48+36x-160=2\left(x-4\right)\left(x^{2}-16\right)
รวม 3x^{2} และ x^{2} เพื่อให้ได้รับ 4x^{2}
2x^{3}+4x+4x^{2}-48-160=2\left(x-4\right)\left(x^{2}-16\right)
รวม -32x และ 36x เพื่อให้ได้รับ 4x
2x^{3}+4x+4x^{2}-208=2\left(x-4\right)\left(x^{2}-16\right)
ลบ 160 จาก -48 เพื่อรับ -208
2x^{3}+4x+4x^{2}-208=\left(2x-8\right)\left(x^{2}-16\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 2 ด้วย x-4
2x^{3}+4x+4x^{2}-208=2x^{3}-32x-8x^{2}+128
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 2x-8 ด้วย x^{2}-16
2x^{3}+4x+4x^{2}-208-2x^{3}=-32x-8x^{2}+128
ลบ 2x^{3} จากทั้งสองด้าน
4x+4x^{2}-208=-32x-8x^{2}+128
รวม 2x^{3} และ -2x^{3} เพื่อให้ได้รับ 0
4x+4x^{2}-208+32x=-8x^{2}+128
เพิ่ม 32x ไปทั้งสองด้าน
36x+4x^{2}-208=-8x^{2}+128
รวม 4x และ 32x เพื่อให้ได้รับ 36x
36x+4x^{2}-208+8x^{2}=128
เพิ่ม 8x^{2} ไปทั้งสองด้าน
36x+12x^{2}-208=128
รวม 4x^{2} และ 8x^{2} เพื่อให้ได้รับ 12x^{2}
36x+12x^{2}-208-128=0
ลบ 128 จากทั้งสองด้าน
36x+12x^{2}-336=0
ลบ 128 จาก -208 เพื่อรับ -336
12x^{2}+36x-336=0
สมการทั้งหมดของรูปแบบ ax^{2}+bx+c=0 จะสามารถแก้ไขได้โดยใช้สูตรยกกำลัง: \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a} ได้ สูตรยกกำลังจะช่วยให้ได้รับสองผลเฉลย หนึ่งคือเมื่อ ± เป็นบวกและอีกหนึ่งคือเมื่อเป็นลบ
x=\frac{-36±\sqrt{36^{2}-4\times 12\left(-336\right)}}{2\times 12}
สมการนี้อยู่ในรูปมาตรฐาน: ax^{2}+bx+c=0 ใช้ 12 แทน a, 36 แทน b และ -336 แทน c ในสูตรกำลังสอง \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a}
x=\frac{-36±\sqrt{1296-4\times 12\left(-336\right)}}{2\times 12}
ยกกำลังสอง 36
x=\frac{-36±\sqrt{1296-48\left(-336\right)}}{2\times 12}
คูณ -4 ด้วย 12
x=\frac{-36±\sqrt{1296+16128}}{2\times 12}
คูณ -48 ด้วย -336
x=\frac{-36±\sqrt{17424}}{2\times 12}
เพิ่ม 1296 ไปยัง 16128
x=\frac{-36±132}{2\times 12}
หารากที่สองของ 17424
x=\frac{-36±132}{24}
คูณ 2 ด้วย 12
x=\frac{96}{24}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{-36±132}{24} เมื่อ ± เป็นบวก เพิ่ม -36 ไปยัง 132
x=4
หาร 96 ด้วย 24
x=-\frac{168}{24}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{-36±132}{24} เมื่อ ± เป็นลบ ลบ 132 จาก -36
x=-7
หาร -168 ด้วย 24
x=4 x=-7
สมการได้รับการแก้ไขแล้ว
2x^{3}-32x+3x^{2}-48+\left(x-4\right)\left(x+40\right)=2\left(x-4\right)\left(x^{2}-16\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 2x+3 ด้วย x^{2}-16
2x^{3}-32x+3x^{2}-48+x^{2}+36x-160=2\left(x-4\right)\left(x^{2}-16\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x-4 ด้วย x+40 และรวมพจน์ที่เหมือนกัน
2x^{3}-32x+4x^{2}-48+36x-160=2\left(x-4\right)\left(x^{2}-16\right)
รวม 3x^{2} และ x^{2} เพื่อให้ได้รับ 4x^{2}
2x^{3}+4x+4x^{2}-48-160=2\left(x-4\right)\left(x^{2}-16\right)
รวม -32x และ 36x เพื่อให้ได้รับ 4x
2x^{3}+4x+4x^{2}-208=2\left(x-4\right)\left(x^{2}-16\right)
ลบ 160 จาก -48 เพื่อรับ -208
2x^{3}+4x+4x^{2}-208=\left(2x-8\right)\left(x^{2}-16\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 2 ด้วย x-4
2x^{3}+4x+4x^{2}-208=2x^{3}-32x-8x^{2}+128
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 2x-8 ด้วย x^{2}-16
2x^{3}+4x+4x^{2}-208-2x^{3}=-32x-8x^{2}+128
ลบ 2x^{3} จากทั้งสองด้าน
4x+4x^{2}-208=-32x-8x^{2}+128
รวม 2x^{3} และ -2x^{3} เพื่อให้ได้รับ 0
4x+4x^{2}-208+32x=-8x^{2}+128
เพิ่ม 32x ไปทั้งสองด้าน
36x+4x^{2}-208=-8x^{2}+128
รวม 4x และ 32x เพื่อให้ได้รับ 36x
36x+4x^{2}-208+8x^{2}=128
เพิ่ม 8x^{2} ไปทั้งสองด้าน
36x+12x^{2}-208=128
รวม 4x^{2} และ 8x^{2} เพื่อให้ได้รับ 12x^{2}
36x+12x^{2}=128+208
เพิ่ม 208 ไปทั้งสองด้าน
36x+12x^{2}=336
เพิ่ม 128 และ 208 เพื่อให้ได้รับ 336
12x^{2}+36x=336
สมการกำลังสองเช่นนี้จะสามารถหาค่าได้ ด้วยการทำให้เป็นกำลังสองสมบูรณ์ ในการทำให้เป็นกำลังสองสมบูรณ์ ขั้นแรกสมการต้องอยู่ในรูปแบบ x^{2}+bx=c
\frac{12x^{2}+36x}{12}=\frac{336}{12}
หารทั้งสองข้างด้วย 12
x^{2}+\frac{36}{12}x=\frac{336}{12}
หารด้วย 12 เลิกทำการคูณด้วย 12
x^{2}+3x=\frac{336}{12}
หาร 36 ด้วย 12
x^{2}+3x=28
หาร 336 ด้วย 12
x^{2}+3x+\left(\frac{3}{2}\right)^{2}=28+\left(\frac{3}{2}\right)^{2}
หาร 3 สัมประสิทธิ์ของพจน์ x ด้วย 2 เพื่อรับ \frac{3}{2} จากนั้นเพิ่มกำลังสองของ \frac{3}{2} ไปยังทั้งสองข้างของสมการ ขั้นตอนนี้จะทำให้ด้านซ้ายของสมการเป็นกำลังสองสมบูรณ์
x^{2}+3x+\frac{9}{4}=28+\frac{9}{4}
ยกกำลังสอง \frac{3}{2} โดยยกกำลังสองทั้งตัวเศษและตัวส่วนของเศษส่วน
x^{2}+3x+\frac{9}{4}=\frac{121}{4}
เพิ่ม 28 ไปยัง \frac{9}{4}
\left(x+\frac{3}{2}\right)^{2}=\frac{121}{4}
ตัวประกอบx^{2}+3x+\frac{9}{4} โดยทั่วไป แล้ว เมื่อx^{2}+bx+cเป็นกําลังสองสมบูรณ์ จะสามารถแยกตัวประกอบเป็น\left(x+\frac{b}{2}\right)^{2}ได้เสมอ
\sqrt{\left(x+\frac{3}{2}\right)^{2}}=\sqrt{\frac{121}{4}}
หารากที่สองของทั้งสองข้างของสมการ
x+\frac{3}{2}=\frac{11}{2} x+\frac{3}{2}=-\frac{11}{2}
ทำให้ง่ายขึ้น
x=4 x=-7
ลบ \frac{3}{2} จากทั้งสองข้างของสมการ
ตัวอย่าง
สมการกำลังสอง
{ x } ^ { 2 } - 4 x - 5 = 0
ตรีโกณมิติ
4 \sin \theta \cos \theta = 2 \sin \theta
สมการเชิงเส้น
y = 3x + 4
เลขคณิต
699 * 533
เมทริกซ์
\left[ \begin{array} { l l } { 2 } & { 3 } \\ { 5 } & { 4 } \end{array} \right] \left[ \begin{array} { l l l } { 2 } & { 0 } & { 3 } \\ { -1 } & { 1 } & { 5 } \end{array} \right]
สมการหลายชั้น
\left. \begin{cases} { 8x+2y = 46 } \\ { 7x+3y = 47 } \end{cases} \right.
การหาอนุพันธ์
\frac { d } { d x } \frac { ( 3 x ^ { 2 } - 2 ) } { ( x - 5 ) }
การหาปริพันธ์
\int _ { 0 } ^ { 1 } x e ^ { - x ^ { 2 } } d x
ลิมิต
\lim _{x \rightarrow-3} \frac{x^{2}-9}{x^{2}+2 x-3}