หาค่า n
n = \frac{11}{4} = 2\frac{3}{4} = 2.75
n=1
แชร์
คัดลอกไปยังคลิปบอร์ดแล้ว
4n^{2}-6n+2=12\left(n-1\right)\left(n-2\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 2n-1 ด้วย 2n-2 และรวมพจน์ที่เหมือนกัน
4n^{2}-6n+2=\left(12n-12\right)\left(n-2\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 12 ด้วย n-1
4n^{2}-6n+2=12n^{2}-36n+24
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 12n-12 ด้วย n-2 และรวมพจน์ที่เหมือนกัน
4n^{2}-6n+2-12n^{2}=-36n+24
ลบ 12n^{2} จากทั้งสองด้าน
-8n^{2}-6n+2=-36n+24
รวม 4n^{2} และ -12n^{2} เพื่อให้ได้รับ -8n^{2}
-8n^{2}-6n+2+36n=24
เพิ่ม 36n ไปทั้งสองด้าน
-8n^{2}+30n+2=24
รวม -6n และ 36n เพื่อให้ได้รับ 30n
-8n^{2}+30n+2-24=0
ลบ 24 จากทั้งสองด้าน
-8n^{2}+30n-22=0
ลบ 24 จาก 2 เพื่อรับ -22
n=\frac{-30±\sqrt{30^{2}-4\left(-8\right)\left(-22\right)}}{2\left(-8\right)}
สมการนี้อยู่ในรูปมาตรฐาน: ax^{2}+bx+c=0 ใช้ -8 แทน a, 30 แทน b และ -22 แทน c ในสูตรกำลังสอง \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a}
n=\frac{-30±\sqrt{900-4\left(-8\right)\left(-22\right)}}{2\left(-8\right)}
ยกกำลังสอง 30
n=\frac{-30±\sqrt{900+32\left(-22\right)}}{2\left(-8\right)}
คูณ -4 ด้วย -8
n=\frac{-30±\sqrt{900-704}}{2\left(-8\right)}
คูณ 32 ด้วย -22
n=\frac{-30±\sqrt{196}}{2\left(-8\right)}
เพิ่ม 900 ไปยัง -704
n=\frac{-30±14}{2\left(-8\right)}
หารากที่สองของ 196
n=\frac{-30±14}{-16}
คูณ 2 ด้วย -8
n=-\frac{16}{-16}
ตอนนี้ แก้สมการ n=\frac{-30±14}{-16} เมื่อ ± เป็นบวก เพิ่ม -30 ไปยัง 14
n=1
หาร -16 ด้วย -16
n=-\frac{44}{-16}
ตอนนี้ แก้สมการ n=\frac{-30±14}{-16} เมื่อ ± เป็นลบ ลบ 14 จาก -30
n=\frac{11}{4}
ทำเศษส่วน \frac{-44}{-16} ให้เป็นพจน์ต่ำสุดโดยลดทอนด้วย 4
n=1 n=\frac{11}{4}
สมการได้รับการแก้ไขแล้ว
4n^{2}-6n+2=12\left(n-1\right)\left(n-2\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 2n-1 ด้วย 2n-2 และรวมพจน์ที่เหมือนกัน
4n^{2}-6n+2=\left(12n-12\right)\left(n-2\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 12 ด้วย n-1
4n^{2}-6n+2=12n^{2}-36n+24
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 12n-12 ด้วย n-2 และรวมพจน์ที่เหมือนกัน
4n^{2}-6n+2-12n^{2}=-36n+24
ลบ 12n^{2} จากทั้งสองด้าน
-8n^{2}-6n+2=-36n+24
รวม 4n^{2} และ -12n^{2} เพื่อให้ได้รับ -8n^{2}
-8n^{2}-6n+2+36n=24
เพิ่ม 36n ไปทั้งสองด้าน
-8n^{2}+30n+2=24
รวม -6n และ 36n เพื่อให้ได้รับ 30n
-8n^{2}+30n=24-2
ลบ 2 จากทั้งสองด้าน
-8n^{2}+30n=22
ลบ 2 จาก 24 เพื่อรับ 22
\frac{-8n^{2}+30n}{-8}=\frac{22}{-8}
หารทั้งสองข้างด้วย -8
n^{2}+\frac{30}{-8}n=\frac{22}{-8}
หารด้วย -8 เลิกทำการคูณด้วย -8
n^{2}-\frac{15}{4}n=\frac{22}{-8}
ทำเศษส่วน \frac{30}{-8} ให้เป็นพจน์ต่ำสุดโดยลดทอนด้วย 2
n^{2}-\frac{15}{4}n=-\frac{11}{4}
ทำเศษส่วน \frac{22}{-8} ให้เป็นพจน์ต่ำสุดโดยลดทอนด้วย 2
n^{2}-\frac{15}{4}n+\left(-\frac{15}{8}\right)^{2}=-\frac{11}{4}+\left(-\frac{15}{8}\right)^{2}
หาร -\frac{15}{4} สัมประสิทธิ์ของพจน์ x ด้วย 2 เพื่อรับ -\frac{15}{8} จากนั้นเพิ่มกำลังสองของ -\frac{15}{8} ไปยังทั้งสองข้างของสมการ ขั้นตอนนี้จะทำให้ด้านซ้ายของสมการเป็นกำลังสองสมบูรณ์
n^{2}-\frac{15}{4}n+\frac{225}{64}=-\frac{11}{4}+\frac{225}{64}
ยกกำลังสอง -\frac{15}{8} โดยยกกำลังสองทั้งตัวเศษและตัวส่วนของเศษส่วน
n^{2}-\frac{15}{4}n+\frac{225}{64}=\frac{49}{64}
เพิ่ม -\frac{11}{4} ไปยัง \frac{225}{64} ด้วยการค้นหาตัวส่วนทั่วไปและเพิ่มตัวเศษ แล้ว ลดเศษส่วนให้เป็นพจน์ต่ำที่สุดถ้าเป็นไปได้
\left(n-\frac{15}{8}\right)^{2}=\frac{49}{64}
ตัวประกอบn^{2}-\frac{15}{4}n+\frac{225}{64} โดยทั่วไป แล้ว เมื่อx^{2}+bx+cเป็นกําลังสองสมบูรณ์ จะสามารถแยกตัวประกอบเป็น\left(x+\frac{b}{2}\right)^{2}ได้เสมอ
\sqrt{\left(n-\frac{15}{8}\right)^{2}}=\sqrt{\frac{49}{64}}
หารากที่สองของทั้งสองข้างของสมการ
n-\frac{15}{8}=\frac{7}{8} n-\frac{15}{8}=-\frac{7}{8}
ทำให้ง่ายขึ้น
n=\frac{11}{4} n=1
เพิ่ม \frac{15}{8} ไปยังทั้งสองข้างของสมการ
ตัวอย่าง
สมการกำลังสอง
{ x } ^ { 2 } - 4 x - 5 = 0
ตรีโกณมิติ
4 \sin \theta \cos \theta = 2 \sin \theta
สมการเชิงเส้น
y = 3x + 4
เลขคณิต
699 * 533
เมทริกซ์
\left[ \begin{array} { l l } { 2 } & { 3 } \\ { 5 } & { 4 } \end{array} \right] \left[ \begin{array} { l l l } { 2 } & { 0 } & { 3 } \\ { -1 } & { 1 } & { 5 } \end{array} \right]
สมการหลายชั้น
\left. \begin{cases} { 8x+2y = 46 } \\ { 7x+3y = 47 } \end{cases} \right.
การหาอนุพันธ์
\frac { d } { d x } \frac { ( 3 x ^ { 2 } - 2 ) } { ( x - 5 ) }
การหาปริพันธ์
\int _ { 0 } ^ { 1 } x e ^ { - x ^ { 2 } } d x
ลิมิต
\lim _{x \rightarrow-3} \frac{x^{2}-9}{x^{2}+2 x-3}