ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
หาค่า k
Tick mark Image

โจทย์ปัญหาที่คล้ายคลึงกันจากการค้นหาในเว็บ

แชร์

144+24k+k^{2}-4\times 4\times 4=0
ใช้ทฤษฎีบททวินาม \left(a-b\right)^{2}=a^{2}-2ab+b^{2} เพื่อขยาย \left(-12-k\right)^{2}
144+24k+k^{2}-16\times 4=0
คูณ 4 และ 4 เพื่อรับ 16
144+24k+k^{2}-64=0
คูณ 16 และ 4 เพื่อรับ 64
80+24k+k^{2}=0
ลบ 64 จาก 144 เพื่อรับ 80
k^{2}+24k+80=0
จัดเรียงพหุนามให้อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน วางตามลำดับจากดีกรีที่มากที่สุดไปหาน้อยที่สุด
a+b=24 ab=80
เมื่อต้องการแก้สมการปัจจัย k^{2}+24k+80 โดยใช้สูตร k^{2}+\left(a+b\right)k+ab=\left(k+a\right)\left(k+b\right) เมื่อต้องการค้นหา a และ b ให้ตั้งค่าระบบเพื่อแก้
1,80 2,40 4,20 5,16 8,10
เนื่องจาก ab เป็นค่าบวก a และ b มีเครื่องหมายเดียวกัน เนื่องจาก a+b เป็นบวก a และ b เป็นค่าบวกทั้งคู่ แสดงรายการคู่จำนวนเต็มดังกล่าวทั้งหมดที่ให้ผลิตภัณฑ์ 80
1+80=81 2+40=42 4+20=24 5+16=21 8+10=18
คำนวณผลรวมสำหรับแต่ละคู่
a=4 b=20
โซลูชันเป็นคู่ที่จะให้ผลรวม 24
\left(k+4\right)\left(k+20\right)
เขียนนิพจน์แยกตัวประกอบใหม่ \left(k+a\right)\left(k+b\right) โดยใช้ค่าที่ได้รับ
k=-4 k=-20
เมื่อต้องการค้นหาโซลูชันสมการให้แก้ไข k+4=0 และ k+20=0
144+24k+k^{2}-4\times 4\times 4=0
ใช้ทฤษฎีบททวินาม \left(a-b\right)^{2}=a^{2}-2ab+b^{2} เพื่อขยาย \left(-12-k\right)^{2}
144+24k+k^{2}-16\times 4=0
คูณ 4 และ 4 เพื่อรับ 16
144+24k+k^{2}-64=0
คูณ 16 และ 4 เพื่อรับ 64
80+24k+k^{2}=0
ลบ 64 จาก 144 เพื่อรับ 80
k^{2}+24k+80=0
จัดเรียงพหุนามให้อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน วางตามลำดับจากดีกรีที่มากที่สุดไปหาน้อยที่สุด
a+b=24 ab=1\times 80=80
เมื่อต้องการแก้สมการ ให้แยกตัวประกอบทางด้านซ้ายมือโดยการจัดกลุ่ม ขั้นแรกต้องเขียนด้านซ้ายมือใหม่เป็น k^{2}+ak+bk+80 เมื่อต้องการค้นหา a และ b ให้ตั้งค่าระบบเพื่อแก้
1,80 2,40 4,20 5,16 8,10
เนื่องจาก ab เป็นค่าบวก a และ b มีเครื่องหมายเดียวกัน เนื่องจาก a+b เป็นบวก a และ b เป็นค่าบวกทั้งคู่ แสดงรายการคู่จำนวนเต็มดังกล่าวทั้งหมดที่ให้ผลิตภัณฑ์ 80
1+80=81 2+40=42 4+20=24 5+16=21 8+10=18
คำนวณผลรวมสำหรับแต่ละคู่
a=4 b=20
โซลูชันเป็นคู่ที่จะให้ผลรวม 24
\left(k^{2}+4k\right)+\left(20k+80\right)
เขียน k^{2}+24k+80 ใหม่เป็น \left(k^{2}+4k\right)+\left(20k+80\right)
k\left(k+4\right)+20\left(k+4\right)
แยกตัวประกอบ k ในกลุ่มแรกและ 20 ใน
\left(k+4\right)\left(k+20\right)
แยกตัวประกอบของพจน์ร่วม k+4 โดยใช้คุณสมบัติการแจกแจง
k=-4 k=-20
เมื่อต้องการค้นหาโซลูชันสมการให้แก้ไข k+4=0 และ k+20=0
144+24k+k^{2}-4\times 4\times 4=0
ใช้ทฤษฎีบททวินาม \left(a-b\right)^{2}=a^{2}-2ab+b^{2} เพื่อขยาย \left(-12-k\right)^{2}
144+24k+k^{2}-16\times 4=0
คูณ 4 และ 4 เพื่อรับ 16
144+24k+k^{2}-64=0
คูณ 16 และ 4 เพื่อรับ 64
80+24k+k^{2}=0
ลบ 64 จาก 144 เพื่อรับ 80
k^{2}+24k+80=0
สมการทั้งหมดของรูปแบบ ax^{2}+bx+c=0 จะสามารถแก้ไขได้โดยใช้สูตรยกกำลัง: \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a} ได้ สูตรยกกำลังจะช่วยให้ได้รับสองผลเฉลย หนึ่งคือเมื่อ ± เป็นบวกและอีกหนึ่งคือเมื่อเป็นลบ
k=\frac{-24±\sqrt{24^{2}-4\times 80}}{2}
สมการนี้อยู่ในรูปมาตรฐาน: ax^{2}+bx+c=0 ใช้ 1 แทน a, 24 แทน b และ 80 แทน c ในสูตรกำลังสอง \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a}
k=\frac{-24±\sqrt{576-4\times 80}}{2}
ยกกำลังสอง 24
k=\frac{-24±\sqrt{576-320}}{2}
คูณ -4 ด้วย 80
k=\frac{-24±\sqrt{256}}{2}
เพิ่ม 576 ไปยัง -320
k=\frac{-24±16}{2}
หารากที่สองของ 256
k=-\frac{8}{2}
ตอนนี้ แก้สมการ k=\frac{-24±16}{2} เมื่อ ± เป็นบวก เพิ่ม -24 ไปยัง 16
k=-4
หาร -8 ด้วย 2
k=-\frac{40}{2}
ตอนนี้ แก้สมการ k=\frac{-24±16}{2} เมื่อ ± เป็นลบ ลบ 16 จาก -24
k=-20
หาร -40 ด้วย 2
k=-4 k=-20
สมการได้รับการแก้ไขแล้ว
144+24k+k^{2}-4\times 4\times 4=0
ใช้ทฤษฎีบททวินาม \left(a-b\right)^{2}=a^{2}-2ab+b^{2} เพื่อขยาย \left(-12-k\right)^{2}
144+24k+k^{2}-16\times 4=0
คูณ 4 และ 4 เพื่อรับ 16
144+24k+k^{2}-64=0
คูณ 16 และ 4 เพื่อรับ 64
80+24k+k^{2}=0
ลบ 64 จาก 144 เพื่อรับ 80
24k+k^{2}=-80
ลบ 80 จากทั้งสองด้าน สิ่งใดลบออกจากศูนย์จะได้ผลเป็นตัวเองที่เป็นค่าลบ
k^{2}+24k=-80
สมการกำลังสองเช่นนี้จะสามารถหาค่าได้ ด้วยการทำให้เป็นกำลังสองสมบูรณ์ ในการทำให้เป็นกำลังสองสมบูรณ์ ขั้นแรกสมการต้องอยู่ในรูปแบบ x^{2}+bx=c
k^{2}+24k+12^{2}=-80+12^{2}
หาร 24 สัมประสิทธิ์ของพจน์ x ด้วย 2 เพื่อรับ 12 จากนั้นเพิ่มกำลังสองของ 12 ไปยังทั้งสองข้างของสมการ ขั้นตอนนี้จะทำให้ด้านซ้ายของสมการเป็นกำลังสองสมบูรณ์
k^{2}+24k+144=-80+144
ยกกำลังสอง 12
k^{2}+24k+144=64
เพิ่ม -80 ไปยัง 144
\left(k+12\right)^{2}=64
ตัวประกอบk^{2}+24k+144 โดยทั่วไป แล้ว เมื่อx^{2}+bx+cเป็นกําลังสองสมบูรณ์ จะสามารถแยกตัวประกอบเป็น\left(x+\frac{b}{2}\right)^{2}ได้เสมอ
\sqrt{\left(k+12\right)^{2}}=\sqrt{64}
หารากที่สองของทั้งสองข้างของสมการ
k+12=8 k+12=-8
ทำให้ง่ายขึ้น
k=-4 k=-20
ลบ 12 จากทั้งสองข้างของสมการ