แยกตัวประกอบ
\left(x-\left(-127\sqrt{30}-635\right)\right)\left(x-\left(127\sqrt{30}-635\right)\right)
หาค่า
x^{2}+1270x-80645
กราฟ
แชร์
คัดลอกไปยังคลิปบอร์ดแล้ว
x^{2}+1270x-80645=0
สมการพหุนามกำลังสองสามารถแยกตัวประกอบโดยใช้การแปลง ax^{2}+bx+c=a\left(x-x_{1}\right)\left(x-x_{2}\right) ที่ x_{1} และ x_{2} เป็นผลเฉลยของสมการกำลังสอง ax^{2}+bx+c=0
x=\frac{-1270±\sqrt{1270^{2}-4\left(-80645\right)}}{2}
สมการทั้งหมดของรูปแบบ ax^{2}+bx+c=0 จะสามารถแก้ไขได้โดยใช้สูตรยกกำลัง: \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a} ได้ สูตรยกกำลังจะช่วยให้ได้รับสองผลเฉลย หนึ่งคือเมื่อ ± เป็นบวกและอีกหนึ่งคือเมื่อเป็นลบ
x=\frac{-1270±\sqrt{1612900-4\left(-80645\right)}}{2}
ยกกำลังสอง 1270
x=\frac{-1270±\sqrt{1612900+322580}}{2}
คูณ -4 ด้วย -80645
x=\frac{-1270±\sqrt{1935480}}{2}
เพิ่ม 1612900 ไปยัง 322580
x=\frac{-1270±254\sqrt{30}}{2}
หารากที่สองของ 1935480
x=\frac{254\sqrt{30}-1270}{2}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{-1270±254\sqrt{30}}{2} เมื่อ ± เป็นบวก เพิ่ม -1270 ไปยัง 254\sqrt{30}
x=127\sqrt{30}-635
หาร -1270+254\sqrt{30} ด้วย 2
x=\frac{-254\sqrt{30}-1270}{2}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{-1270±254\sqrt{30}}{2} เมื่อ ± เป็นลบ ลบ 254\sqrt{30} จาก -1270
x=-127\sqrt{30}-635
หาร -1270-254\sqrt{30} ด้วย 2
x^{2}+1270x-80645=\left(x-\left(127\sqrt{30}-635\right)\right)\left(x-\left(-127\sqrt{30}-635\right)\right)
แยกตัวประกอบนิพจน์เดิมด้วย ax^{2}+bx+c=a\left(x-x_{1}\right)\left(x-x_{2}\right) ลบ -635+127\sqrt{30} สำหรับ x_{1} และ -635-127\sqrt{30} สำหรับ x_{2}
ตัวอย่าง
สมการกำลังสอง
{ x } ^ { 2 } - 4 x - 5 = 0
ตรีโกณมิติ
4 \sin \theta \cos \theta = 2 \sin \theta
สมการเชิงเส้น
y = 3x + 4
เลขคณิต
699 * 533
เมทริกซ์
\left[ \begin{array} { l l } { 2 } & { 3 } \\ { 5 } & { 4 } \end{array} \right] \left[ \begin{array} { l l l } { 2 } & { 0 } & { 3 } \\ { -1 } & { 1 } & { 5 } \end{array} \right]
สมการหลายชั้น
\left. \begin{cases} { 8x+2y = 46 } \\ { 7x+3y = 47 } \end{cases} \right.
การหาอนุพันธ์
\frac { d } { d x } \frac { ( 3 x ^ { 2 } - 2 ) } { ( x - 5 ) }
การหาปริพันธ์
\int _ { 0 } ^ { 1 } x e ^ { - x ^ { 2 } } d x
ลิมิต
\lim _{x \rightarrow-3} \frac{x^{2}-9}{x^{2}+2 x-3}