หาค่า x, y
x=\frac{13}{24\left(b+2\right)}
y=\frac{21b+16}{30\left(b+2\right)}
b\neq -2
กราฟ
แชร์
คัดลอกไปยังคลิปบอร์ดแล้ว
12bx-15y=-4,16x+10y=7
เมื่อต้องการแก้คู่สมการที่ใช้ตัวทดแทน ขั้นแรก หาค่าสมการหนึ่งในสมการของหนึ่งในตัวแปร จากนั้น แทนค่าผลลัพธ์ของตัวแปรที่อยู่ในอีกสมการหนึ่ง
12bx-15y=-4
เลือกสมการหนึ่งสมการ และหาค่าสำหรับ x โดยแยก x ทางด้านซ้ายของเครื่องหมายเท่ากับ
12bx=15y-4
เพิ่ม 15y ไปยังทั้งสองข้างของสมการ
x=\frac{1}{12b}\left(15y-4\right)
หารทั้งสองข้างด้วย 12b
x=\frac{5}{4b}y-\frac{1}{3b}
คูณ \frac{1}{12b} ด้วย 15y-4
16\left(\frac{5}{4b}y-\frac{1}{3b}\right)+10y=7
ทดแทน \frac{-4+15y}{12b} สำหรับ x ในอีกสมการหนึ่ง 16x+10y=7
\frac{20}{b}y-\frac{16}{3b}+10y=7
คูณ 16 ด้วย \frac{-4+15y}{12b}
\left(10+\frac{20}{b}\right)y-\frac{16}{3b}=7
เพิ่ม \frac{20y}{b} ไปยัง 10y
\left(10+\frac{20}{b}\right)y=7+\frac{16}{3b}
เพิ่ม \frac{16}{3b} ไปยังทั้งสองข้างของสมการ
y=\frac{21b+16}{30\left(b+2\right)}
หารทั้งสองข้างด้วย \frac{20}{b}+10
x=\frac{5}{4b}\times \frac{21b+16}{30\left(b+2\right)}-\frac{1}{3b}
ทดแทน \frac{16+21b}{30\left(2+b\right)} สำหรับ y ใน x=\frac{5}{4b}y-\frac{1}{3b} เนื่องจากสมการเป็นผลลัพธ์ประกอบด้วยตัวแปรเดียว คุณสามารถหาค่า x โดยตรงได้
x=\frac{21b+16}{24b\left(b+2\right)}-\frac{1}{3b}
คูณ \frac{5}{4b} ด้วย \frac{16+21b}{30\left(2+b\right)}
x=\frac{13}{24\left(b+2\right)}
เพิ่ม -\frac{1}{3b} ไปยัง \frac{16+21b}{24b\left(2+b\right)}
x=\frac{13}{24\left(b+2\right)},y=\frac{21b+16}{30\left(b+2\right)}
ระบบถูกแก้แล้วในขณะนี้
12bx-15y=-4,16x+10y=7
ทำสมการให้อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน จากนั้นใช้เมทริกซ์แก้ระบบสมการ
\left(\begin{matrix}12b&-15\\16&10\end{matrix}\right)\left(\begin{matrix}x\\y\end{matrix}\right)=\left(\begin{matrix}-4\\7\end{matrix}\right)
เขียนสมการในรูปแบบเมทริกซ์
inverse(\left(\begin{matrix}12b&-15\\16&10\end{matrix}\right))\left(\begin{matrix}12b&-15\\16&10\end{matrix}\right)\left(\begin{matrix}x\\y\end{matrix}\right)=inverse(\left(\begin{matrix}12b&-15\\16&10\end{matrix}\right))\left(\begin{matrix}-4\\7\end{matrix}\right)
คูณซ้ายสมการโดยเมทริกซ์ผกผันของ \left(\begin{matrix}12b&-15\\16&10\end{matrix}\right)
\left(\begin{matrix}1&0\\0&1\end{matrix}\right)\left(\begin{matrix}x\\y\end{matrix}\right)=inverse(\left(\begin{matrix}12b&-15\\16&10\end{matrix}\right))\left(\begin{matrix}-4\\7\end{matrix}\right)
ผลคูณของเมทริกซ์และค่าผกผันของเมทริกซ์คือเมทริกซ์เอกลักษณ์
\left(\begin{matrix}x\\y\end{matrix}\right)=inverse(\left(\begin{matrix}12b&-15\\16&10\end{matrix}\right))\left(\begin{matrix}-4\\7\end{matrix}\right)
คูณเมทริกซ์ทางด้านซ้ายของเครื่องหมายเท่ากับ
\left(\begin{matrix}x\\y\end{matrix}\right)=\left(\begin{matrix}\frac{10}{12b\times 10-\left(-15\times 16\right)}&-\frac{-15}{12b\times 10-\left(-15\times 16\right)}\\-\frac{16}{12b\times 10-\left(-15\times 16\right)}&\frac{12b}{12b\times 10-\left(-15\times 16\right)}\end{matrix}\right)\left(\begin{matrix}-4\\7\end{matrix}\right)
สําหรับเมทริกซ์ 2\times 2 \left(\begin{matrix}a&b\\c&d\end{matrix}\right) เมทริกซ์ผกผันคือ \left(\begin{matrix}\frac{d}{ad-bc}&\frac{-b}{ad-bc}\\\frac{-c}{ad-bc}&\frac{a}{ad-bc}\end{matrix}\right) ดังนั้นสมการเมทริกซ์สามารถเขียนใหม่เป็นปัญหาการคูณเมทริกซ์ได้
\left(\begin{matrix}x\\y\end{matrix}\right)=\left(\begin{matrix}\frac{1}{12\left(b+2\right)}&\frac{1}{8\left(b+2\right)}\\-\frac{2}{15\left(b+2\right)}&\frac{b}{10\left(b+2\right)}\end{matrix}\right)\left(\begin{matrix}-4\\7\end{matrix}\right)
ดำเนินการทางคณิตศาสตร์
\left(\begin{matrix}x\\y\end{matrix}\right)=\left(\begin{matrix}\frac{1}{12\left(b+2\right)}\left(-4\right)+\frac{1}{8\left(b+2\right)}\times 7\\\left(-\frac{2}{15\left(b+2\right)}\right)\left(-4\right)+\frac{b}{10\left(b+2\right)}\times 7\end{matrix}\right)
คูณเมทริกซ์
\left(\begin{matrix}x\\y\end{matrix}\right)=\left(\begin{matrix}\frac{13}{24\left(b+2\right)}\\\frac{21b+16}{30\left(b+2\right)}\end{matrix}\right)
ดำเนินการทางคณิตศาสตร์
x=\frac{13}{24\left(b+2\right)},y=\frac{21b+16}{30\left(b+2\right)}
แยกเมทริกซ์องค์ประกอบ x และ y
12bx-15y=-4,16x+10y=7
เพื่อที่จะแก้ไขได้โดยการตัดออก สัมประสิทธิ์ของตัวแปรหนึ่งต้องเหมือนกันในทั้งสองสมการเพื่อให้ตัวแปรถูกตัดเมื่อสมการหนึ่งถูกลบออกจากอีกสมการ
16\times 12bx+16\left(-15\right)y=16\left(-4\right),12b\times 16x+12b\times 10y=12b\times 7
เพื่อทำให้ 12bx และ 16x เท่ากัน คูณพจน์ทั้งหมดบนแต่ละข้างของสมการแรกด้วย 16 และพจน์ทั้งหมดในแต่ละด้านของสมการที่สองด้วย 12b
192bx-240y=-64,192bx+120by=84b
ทำให้ง่ายขึ้น
192bx+\left(-192b\right)x-240y+\left(-120b\right)y=-64-84b
ลบ 192bx+120by=84b จาก 192bx-240y=-64 โดยลบพจน์ที่เหมือนกันบนแต่ละข้างของเครื่องหมายเท่ากับ
-240y+\left(-120b\right)y=-64-84b
เพิ่ม 192bx ไปยัง -192bx ตัดพจน์ 192bx และ -192bx ทำให้สมการเหลือตัวแปรเดียวเท่านั้นที่สามารถแก้ไขได้
\left(-120b-240\right)y=-64-84b
เพิ่ม -240y ไปยัง -120by
\left(-120b-240\right)y=-84b-64
เพิ่ม -64 ไปยัง -84b
y=\frac{21b+16}{30\left(b+2\right)}
หารทั้งสองข้างด้วย -240-120b
16x+10\times \frac{21b+16}{30\left(b+2\right)}=7
ทดแทน \frac{16+21b}{30\left(2+b\right)} สำหรับ y ใน 16x+10y=7 เนื่องจากสมการเป็นผลลัพธ์ประกอบด้วยตัวแปรเดียว คุณสามารถหาค่า x โดยตรงได้
16x+\frac{21b+16}{3\left(b+2\right)}=7
คูณ 10 ด้วย \frac{16+21b}{30\left(2+b\right)}
16x=\frac{26}{3\left(b+2\right)}
ลบ \frac{16+21b}{3\left(2+b\right)} จากทั้งสองข้างของสมการ
x=\frac{13}{24\left(b+2\right)}
หารทั้งสองข้างด้วย 16
x=\frac{13}{24\left(b+2\right)},y=\frac{21b+16}{30\left(b+2\right)}
ระบบถูกแก้แล้วในขณะนี้
ตัวอย่าง
สมการกำลังสอง
{ x } ^ { 2 } - 4 x - 5 = 0
ตรีโกณมิติ
4 \sin \theta \cos \theta = 2 \sin \theta
สมการเชิงเส้น
y = 3x + 4
เลขคณิต
699 * 533
เมทริกซ์
\left[ \begin{array} { l l } { 2 } & { 3 } \\ { 5 } & { 4 } \end{array} \right] \left[ \begin{array} { l l l } { 2 } & { 0 } & { 3 } \\ { -1 } & { 1 } & { 5 } \end{array} \right]
สมการหลายชั้น
\left. \begin{cases} { 8x+2y = 46 } \\ { 7x+3y = 47 } \end{cases} \right.
การหาอนุพันธ์
\frac { d } { d x } \frac { ( 3 x ^ { 2 } - 2 ) } { ( x - 5 ) }
การหาปริพันธ์
\int _ { 0 } ^ { 1 } x e ^ { - x ^ { 2 } } d x
ลิมิต
\lim _{x \rightarrow-3} \frac{x^{2}-9}{x^{2}+2 x-3}