\left\{ \begin{array} { l } { 2 m - 3 n = 130 } \\ { - m + 5 = 4 n } \end{array} \right.
หาค่า m, n
m = \frac{535}{11} = 48\frac{7}{11} \approx 48.636363636
n = -\frac{120}{11} = -10\frac{10}{11} \approx -10.909090909
แชร์
คัดลอกไปยังคลิปบอร์ดแล้ว
-m+5-4n=0
พิจารณาสมการที่สอง ลบ 4n จากทั้งสองด้าน
-m-4n=-5
ลบ 5 จากทั้งสองด้าน สิ่งใดลบออกจากศูนย์จะได้ผลเป็นตัวเองที่เป็นค่าลบ
2m-3n=130,-m-4n=-5
เมื่อต้องการแก้คู่สมการที่ใช้ตัวทดแทน ขั้นแรก หาค่าสมการหนึ่งในสมการของหนึ่งในตัวแปร จากนั้น แทนค่าผลลัพธ์ของตัวแปรที่อยู่ในอีกสมการหนึ่ง
2m-3n=130
เลือกสมการหนึ่งสมการ และหาค่าสำหรับ m โดยแยก m ทางด้านซ้ายของเครื่องหมายเท่ากับ
2m=3n+130
เพิ่ม 3n ไปยังทั้งสองข้างของสมการ
m=\frac{1}{2}\left(3n+130\right)
หารทั้งสองข้างด้วย 2
m=\frac{3}{2}n+65
คูณ \frac{1}{2} ด้วย 3n+130
-\left(\frac{3}{2}n+65\right)-4n=-5
ทดแทน \frac{3n}{2}+65 สำหรับ m ในอีกสมการหนึ่ง -m-4n=-5
-\frac{3}{2}n-65-4n=-5
คูณ -1 ด้วย \frac{3n}{2}+65
-\frac{11}{2}n-65=-5
เพิ่ม -\frac{3n}{2} ไปยัง -4n
-\frac{11}{2}n=60
เพิ่ม 65 ไปยังทั้งสองข้างของสมการ
n=-\frac{120}{11}
หารทั้งสองข้างของสมการด้วย -\frac{11}{2} ซึ่งเหมือนกับการคูณทั้งสองข้างด้วยส่วนกลับของเศษส่วน
m=\frac{3}{2}\left(-\frac{120}{11}\right)+65
ทดแทน -\frac{120}{11} สำหรับ n ใน m=\frac{3}{2}n+65 เนื่องจากสมการเป็นผลลัพธ์ประกอบด้วยตัวแปรเดียว คุณสามารถหาค่า m โดยตรงได้
m=-\frac{180}{11}+65
คูณ \frac{3}{2} ครั้ง -\frac{120}{11} โดยการคูณเศษด้วยเศษและคูณตัวส่วนด้วยส่วน แล้วลดเศษส่วนให้เป็นพจน์ต่ำสุดถ้าเป็นไปได้
m=\frac{535}{11}
เพิ่ม 65 ไปยัง -\frac{180}{11}
m=\frac{535}{11},n=-\frac{120}{11}
ระบบถูกแก้แล้วในขณะนี้
-m+5-4n=0
พิจารณาสมการที่สอง ลบ 4n จากทั้งสองด้าน
-m-4n=-5
ลบ 5 จากทั้งสองด้าน สิ่งใดลบออกจากศูนย์จะได้ผลเป็นตัวเองที่เป็นค่าลบ
2m-3n=130,-m-4n=-5
ทำสมการให้อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน จากนั้นใช้เมทริกซ์แก้ระบบสมการ
\left(\begin{matrix}2&-3\\-1&-4\end{matrix}\right)\left(\begin{matrix}m\\n\end{matrix}\right)=\left(\begin{matrix}130\\-5\end{matrix}\right)
เขียนสมการในรูปแบบเมทริกซ์
inverse(\left(\begin{matrix}2&-3\\-1&-4\end{matrix}\right))\left(\begin{matrix}2&-3\\-1&-4\end{matrix}\right)\left(\begin{matrix}m\\n\end{matrix}\right)=inverse(\left(\begin{matrix}2&-3\\-1&-4\end{matrix}\right))\left(\begin{matrix}130\\-5\end{matrix}\right)
คูณซ้ายสมการโดยเมทริกซ์ผกผันของ \left(\begin{matrix}2&-3\\-1&-4\end{matrix}\right)
\left(\begin{matrix}1&0\\0&1\end{matrix}\right)\left(\begin{matrix}m\\n\end{matrix}\right)=inverse(\left(\begin{matrix}2&-3\\-1&-4\end{matrix}\right))\left(\begin{matrix}130\\-5\end{matrix}\right)
ผลคูณของเมทริกซ์และค่าผกผันของเมทริกซ์คือเมทริกซ์เอกลักษณ์
\left(\begin{matrix}m\\n\end{matrix}\right)=inverse(\left(\begin{matrix}2&-3\\-1&-4\end{matrix}\right))\left(\begin{matrix}130\\-5\end{matrix}\right)
คูณเมทริกซ์ทางด้านซ้ายของเครื่องหมายเท่ากับ
\left(\begin{matrix}m\\n\end{matrix}\right)=\left(\begin{matrix}-\frac{4}{2\left(-4\right)-\left(-3\left(-1\right)\right)}&-\frac{-3}{2\left(-4\right)-\left(-3\left(-1\right)\right)}\\-\frac{-1}{2\left(-4\right)-\left(-3\left(-1\right)\right)}&\frac{2}{2\left(-4\right)-\left(-3\left(-1\right)\right)}\end{matrix}\right)\left(\begin{matrix}130\\-5\end{matrix}\right)
สําหรับเมทริกซ์ 2\times 2 \left(\begin{matrix}a&b\\c&d\end{matrix}\right) เมทริกซ์ผกผันคือ \left(\begin{matrix}\frac{d}{ad-bc}&\frac{-b}{ad-bc}\\\frac{-c}{ad-bc}&\frac{a}{ad-bc}\end{matrix}\right) ดังนั้นสมการเมทริกซ์สามารถเขียนใหม่เป็นปัญหาการคูณเมทริกซ์ได้
\left(\begin{matrix}m\\n\end{matrix}\right)=\left(\begin{matrix}\frac{4}{11}&-\frac{3}{11}\\-\frac{1}{11}&-\frac{2}{11}\end{matrix}\right)\left(\begin{matrix}130\\-5\end{matrix}\right)
ดำเนินการทางคณิตศาสตร์
\left(\begin{matrix}m\\n\end{matrix}\right)=\left(\begin{matrix}\frac{4}{11}\times 130-\frac{3}{11}\left(-5\right)\\-\frac{1}{11}\times 130-\frac{2}{11}\left(-5\right)\end{matrix}\right)
คูณเมทริกซ์
\left(\begin{matrix}m\\n\end{matrix}\right)=\left(\begin{matrix}\frac{535}{11}\\-\frac{120}{11}\end{matrix}\right)
ดำเนินการทางคณิตศาสตร์
m=\frac{535}{11},n=-\frac{120}{11}
แยกเมทริกซ์องค์ประกอบ m และ n
-m+5-4n=0
พิจารณาสมการที่สอง ลบ 4n จากทั้งสองด้าน
-m-4n=-5
ลบ 5 จากทั้งสองด้าน สิ่งใดลบออกจากศูนย์จะได้ผลเป็นตัวเองที่เป็นค่าลบ
2m-3n=130,-m-4n=-5
เพื่อที่จะแก้ไขได้โดยการตัดออก สัมประสิทธิ์ของตัวแปรหนึ่งต้องเหมือนกันในทั้งสองสมการเพื่อให้ตัวแปรถูกตัดเมื่อสมการหนึ่งถูกลบออกจากอีกสมการ
-2m-\left(-3n\right)=-130,2\left(-1\right)m+2\left(-4\right)n=2\left(-5\right)
เพื่อทำให้ 2m และ -m เท่ากัน คูณพจน์ทั้งหมดบนแต่ละข้างของสมการแรกด้วย -1 และพจน์ทั้งหมดในแต่ละด้านของสมการที่สองด้วย 2
-2m+3n=-130,-2m-8n=-10
ทำให้ง่ายขึ้น
-2m+2m+3n+8n=-130+10
ลบ -2m-8n=-10 จาก -2m+3n=-130 โดยลบพจน์ที่เหมือนกันบนแต่ละข้างของเครื่องหมายเท่ากับ
3n+8n=-130+10
เพิ่ม -2m ไปยัง 2m ตัดพจน์ -2m และ 2m ทำให้สมการเหลือตัวแปรเดียวเท่านั้นที่สามารถแก้ไขได้
11n=-130+10
เพิ่ม 3n ไปยัง 8n
11n=-120
เพิ่ม -130 ไปยัง 10
n=-\frac{120}{11}
หารทั้งสองข้างด้วย 11
-m-4\left(-\frac{120}{11}\right)=-5
ทดแทน -\frac{120}{11} สำหรับ n ใน -m-4n=-5 เนื่องจากสมการเป็นผลลัพธ์ประกอบด้วยตัวแปรเดียว คุณสามารถหาค่า m โดยตรงได้
-m+\frac{480}{11}=-5
คูณ -4 ด้วย -\frac{120}{11}
-m=-\frac{535}{11}
ลบ \frac{480}{11} จากทั้งสองข้างของสมการ
m=\frac{535}{11}
หารทั้งสองข้างด้วย -1
m=\frac{535}{11},n=-\frac{120}{11}
ระบบถูกแก้แล้วในขณะนี้
ตัวอย่าง
สมการกำลังสอง
{ x } ^ { 2 } - 4 x - 5 = 0
ตรีโกณมิติ
4 \sin \theta \cos \theta = 2 \sin \theta
สมการเชิงเส้น
y = 3x + 4
เลขคณิต
699 * 533
เมทริกซ์
\left[ \begin{array} { l l } { 2 } & { 3 } \\ { 5 } & { 4 } \end{array} \right] \left[ \begin{array} { l l l } { 2 } & { 0 } & { 3 } \\ { -1 } & { 1 } & { 5 } \end{array} \right]
สมการหลายชั้น
\left. \begin{cases} { 8x+2y = 46 } \\ { 7x+3y = 47 } \end{cases} \right.
การหาอนุพันธ์
\frac { d } { d x } \frac { ( 3 x ^ { 2 } - 2 ) } { ( x - 5 ) }
การหาปริพันธ์
\int _ { 0 } ^ { 1 } x e ^ { - x ^ { 2 } } d x
ลิมิต
\lim _{x \rightarrow-3} \frac{x^{2}-9}{x^{2}+2 x-3}