ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
หาค่า x
Tick mark Image
กราฟ

โจทย์ปัญหาที่คล้ายคลึงกันจากการค้นหาในเว็บ

แชร์

\left(x-2\right)\left(x-2\right)-\left(x-1\right)\left(x-1\right)=x^{2}
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับค่า 1,2 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย \left(x-2\right)\left(x-1\right) ตัวคูณร่วมน้อยของ x-1,x-2,x^{2}-3x+2
\left(x-2\right)^{2}-\left(x-1\right)\left(x-1\right)=x^{2}
คูณ x-2 และ x-2 เพื่อรับ \left(x-2\right)^{2}
\left(x-2\right)^{2}-\left(x-1\right)^{2}=x^{2}
คูณ x-1 และ x-1 เพื่อรับ \left(x-1\right)^{2}
x^{2}-4x+4-\left(x-1\right)^{2}=x^{2}
ใช้ทฤษฎีบททวินาม \left(a-b\right)^{2}=a^{2}-2ab+b^{2} เพื่อขยาย \left(x-2\right)^{2}
x^{2}-4x+4-\left(x^{2}-2x+1\right)=x^{2}
ใช้ทฤษฎีบททวินาม \left(a-b\right)^{2}=a^{2}-2ab+b^{2} เพื่อขยาย \left(x-1\right)^{2}
x^{2}-4x+4-x^{2}+2x-1=x^{2}
เมื่อต้องการค้นหาค่าตรงข้ามของ x^{2}-2x+1 ให้ค้นหาค่าตรงข้ามของแต่ละพจน์
-4x+4+2x-1=x^{2}
รวม x^{2} และ -x^{2} เพื่อให้ได้รับ 0
-2x+4-1=x^{2}
รวม -4x และ 2x เพื่อให้ได้รับ -2x
-2x+3=x^{2}
ลบ 1 จาก 4 เพื่อรับ 3
-2x+3-x^{2}=0
ลบ x^{2} จากทั้งสองด้าน
-x^{2}-2x+3=0
จัดเรียงพหุนามให้อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน วางตามลำดับจากดีกรีที่มากที่สุดไปหาน้อยที่สุด
a+b=-2 ab=-3=-3
เมื่อต้องการแก้สมการ ให้แยกตัวประกอบทางด้านซ้ายมือโดยการจัดกลุ่ม ขั้นแรกต้องเขียนด้านซ้ายมือใหม่เป็น -x^{2}+ax+bx+3 เมื่อต้องการค้นหา a และ b ให้ตั้งค่าระบบเพื่อแก้
a=1 b=-3
เนื่องจาก ab เป็นค่าลบ a และ b มีสัญลักษณ์ตรงข้ามกัน เนื่องจาก a+b เป็นค่าลบตัวเลขค่าลบมีค่าสัมบูรณ์ที่มากกว่าจำนวนบวก คู่ดังกล่าวเท่านั้นที่เป็นผลเฉลยระบบ
\left(-x^{2}+x\right)+\left(-3x+3\right)
เขียน -x^{2}-2x+3 ใหม่เป็น \left(-x^{2}+x\right)+\left(-3x+3\right)
x\left(-x+1\right)+3\left(-x+1\right)
แยกตัวประกอบ x ในกลุ่มแรกและ 3 ใน
\left(-x+1\right)\left(x+3\right)
แยกตัวประกอบของพจน์ร่วม -x+1 โดยใช้คุณสมบัติการแจกแจง
x=1 x=-3
เมื่อต้องการค้นหาโซลูชันสมการให้แก้ไข -x+1=0 และ x+3=0
x=-3
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ 1
\left(x-2\right)\left(x-2\right)-\left(x-1\right)\left(x-1\right)=x^{2}
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับค่า 1,2 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย \left(x-2\right)\left(x-1\right) ตัวคูณร่วมน้อยของ x-1,x-2,x^{2}-3x+2
\left(x-2\right)^{2}-\left(x-1\right)\left(x-1\right)=x^{2}
คูณ x-2 และ x-2 เพื่อรับ \left(x-2\right)^{2}
\left(x-2\right)^{2}-\left(x-1\right)^{2}=x^{2}
คูณ x-1 และ x-1 เพื่อรับ \left(x-1\right)^{2}
x^{2}-4x+4-\left(x-1\right)^{2}=x^{2}
ใช้ทฤษฎีบททวินาม \left(a-b\right)^{2}=a^{2}-2ab+b^{2} เพื่อขยาย \left(x-2\right)^{2}
x^{2}-4x+4-\left(x^{2}-2x+1\right)=x^{2}
ใช้ทฤษฎีบททวินาม \left(a-b\right)^{2}=a^{2}-2ab+b^{2} เพื่อขยาย \left(x-1\right)^{2}
x^{2}-4x+4-x^{2}+2x-1=x^{2}
เมื่อต้องการค้นหาค่าตรงข้ามของ x^{2}-2x+1 ให้ค้นหาค่าตรงข้ามของแต่ละพจน์
-4x+4+2x-1=x^{2}
รวม x^{2} และ -x^{2} เพื่อให้ได้รับ 0
-2x+4-1=x^{2}
รวม -4x และ 2x เพื่อให้ได้รับ -2x
-2x+3=x^{2}
ลบ 1 จาก 4 เพื่อรับ 3
-2x+3-x^{2}=0
ลบ x^{2} จากทั้งสองด้าน
-x^{2}-2x+3=0
สมการทั้งหมดของรูปแบบ ax^{2}+bx+c=0 จะสามารถแก้ไขได้โดยใช้สูตรยกกำลัง: \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a} ได้ สูตรยกกำลังจะช่วยให้ได้รับสองผลเฉลย หนึ่งคือเมื่อ ± เป็นบวกและอีกหนึ่งคือเมื่อเป็นลบ
x=\frac{-\left(-2\right)±\sqrt{\left(-2\right)^{2}-4\left(-1\right)\times 3}}{2\left(-1\right)}
สมการนี้อยู่ในรูปมาตรฐาน: ax^{2}+bx+c=0 ใช้ -1 แทน a, -2 แทน b และ 3 แทน c ในสูตรกำลังสอง \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a}
x=\frac{-\left(-2\right)±\sqrt{4-4\left(-1\right)\times 3}}{2\left(-1\right)}
ยกกำลังสอง -2
x=\frac{-\left(-2\right)±\sqrt{4+4\times 3}}{2\left(-1\right)}
คูณ -4 ด้วย -1
x=\frac{-\left(-2\right)±\sqrt{4+12}}{2\left(-1\right)}
คูณ 4 ด้วย 3
x=\frac{-\left(-2\right)±\sqrt{16}}{2\left(-1\right)}
เพิ่ม 4 ไปยัง 12
x=\frac{-\left(-2\right)±4}{2\left(-1\right)}
หารากที่สองของ 16
x=\frac{2±4}{2\left(-1\right)}
ตรงข้ามกับ -2 คือ 2
x=\frac{2±4}{-2}
คูณ 2 ด้วย -1
x=\frac{6}{-2}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{2±4}{-2} เมื่อ ± เป็นบวก เพิ่ม 2 ไปยัง 4
x=-3
หาร 6 ด้วย -2
x=-\frac{2}{-2}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{2±4}{-2} เมื่อ ± เป็นลบ ลบ 4 จาก 2
x=1
หาร -2 ด้วย -2
x=-3 x=1
สมการได้รับการแก้ไขแล้ว
x=-3
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ 1
\left(x-2\right)\left(x-2\right)-\left(x-1\right)\left(x-1\right)=x^{2}
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับค่า 1,2 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย \left(x-2\right)\left(x-1\right) ตัวคูณร่วมน้อยของ x-1,x-2,x^{2}-3x+2
\left(x-2\right)^{2}-\left(x-1\right)\left(x-1\right)=x^{2}
คูณ x-2 และ x-2 เพื่อรับ \left(x-2\right)^{2}
\left(x-2\right)^{2}-\left(x-1\right)^{2}=x^{2}
คูณ x-1 และ x-1 เพื่อรับ \left(x-1\right)^{2}
x^{2}-4x+4-\left(x-1\right)^{2}=x^{2}
ใช้ทฤษฎีบททวินาม \left(a-b\right)^{2}=a^{2}-2ab+b^{2} เพื่อขยาย \left(x-2\right)^{2}
x^{2}-4x+4-\left(x^{2}-2x+1\right)=x^{2}
ใช้ทฤษฎีบททวินาม \left(a-b\right)^{2}=a^{2}-2ab+b^{2} เพื่อขยาย \left(x-1\right)^{2}
x^{2}-4x+4-x^{2}+2x-1=x^{2}
เมื่อต้องการค้นหาค่าตรงข้ามของ x^{2}-2x+1 ให้ค้นหาค่าตรงข้ามของแต่ละพจน์
-4x+4+2x-1=x^{2}
รวม x^{2} และ -x^{2} เพื่อให้ได้รับ 0
-2x+4-1=x^{2}
รวม -4x และ 2x เพื่อให้ได้รับ -2x
-2x+3=x^{2}
ลบ 1 จาก 4 เพื่อรับ 3
-2x+3-x^{2}=0
ลบ x^{2} จากทั้งสองด้าน
-2x-x^{2}=-3
ลบ 3 จากทั้งสองด้าน สิ่งใดลบออกจากศูนย์จะได้ผลเป็นตัวเองที่เป็นค่าลบ
-x^{2}-2x=-3
สมการกำลังสองเช่นนี้จะสามารถหาค่าได้ ด้วยการทำให้เป็นกำลังสองสมบูรณ์ ในการทำให้เป็นกำลังสองสมบูรณ์ ขั้นแรกสมการต้องอยู่ในรูปแบบ x^{2}+bx=c
\frac{-x^{2}-2x}{-1}=-\frac{3}{-1}
หารทั้งสองข้างด้วย -1
x^{2}+\left(-\frac{2}{-1}\right)x=-\frac{3}{-1}
หารด้วย -1 เลิกทำการคูณด้วย -1
x^{2}+2x=-\frac{3}{-1}
หาร -2 ด้วย -1
x^{2}+2x=3
หาร -3 ด้วย -1
x^{2}+2x+1^{2}=3+1^{2}
หาร 2 สัมประสิทธิ์ของพจน์ x ด้วย 2 เพื่อรับ 1 จากนั้นเพิ่มกำลังสองของ 1 ไปยังทั้งสองข้างของสมการ ขั้นตอนนี้จะทำให้ด้านซ้ายของสมการเป็นกำลังสองสมบูรณ์
x^{2}+2x+1=3+1
ยกกำลังสอง 1
x^{2}+2x+1=4
เพิ่ม 3 ไปยัง 1
\left(x+1\right)^{2}=4
ตัวประกอบx^{2}+2x+1 โดยทั่วไป แล้ว เมื่อx^{2}+bx+cเป็นกําลังสองสมบูรณ์ จะสามารถแยกตัวประกอบเป็น\left(x+\frac{b}{2}\right)^{2}ได้เสมอ
\sqrt{\left(x+1\right)^{2}}=\sqrt{4}
หารากที่สองของทั้งสองข้างของสมการ
x+1=2 x+1=-2
ทำให้ง่ายขึ้น
x=1 x=-3
ลบ 1 จากทั้งสองข้างของสมการ
x=-3
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ 1