หาค่า x
x=-1
x=6
กราฟ
แชร์
คัดลอกไปยังคลิปบอร์ดแล้ว
\left(x-2\right)x=\left(x+2\right)\times 3
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับค่า -2,2,3 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย \left(x-3\right)\left(x-2\right)\left(x+2\right) ตัวคูณร่วมน้อยของ x^{2}-x-6,x^{2}-5x+6
x^{2}-2x=\left(x+2\right)\times 3
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x-2 ด้วย x
x^{2}-2x=3x+6
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x+2 ด้วย 3
x^{2}-2x-3x=6
ลบ 3x จากทั้งสองด้าน
x^{2}-5x=6
รวม -2x และ -3x เพื่อให้ได้รับ -5x
x^{2}-5x-6=0
ลบ 6 จากทั้งสองด้าน
a+b=-5 ab=-6
เมื่อต้องการแก้สมการปัจจัย x^{2}-5x-6 โดยใช้สูตร x^{2}+\left(a+b\right)x+ab=\left(x+a\right)\left(x+b\right) เมื่อต้องการค้นหา a และ b ให้ตั้งค่าระบบเพื่อแก้
1,-6 2,-3
เนื่องจาก ab เป็นค่าลบ a และ b มีสัญลักษณ์ตรงข้ามกัน เนื่องจาก a+b เป็นค่าลบตัวเลขค่าลบมีค่าสัมบูรณ์ที่มากกว่าจำนวนบวก แสดงรายการคู่จำนวนเต็มดังกล่าวทั้งหมดที่ให้ผลิตภัณฑ์ -6
1-6=-5 2-3=-1
คำนวณผลรวมสำหรับแต่ละคู่
a=-6 b=1
โซลูชันเป็นคู่ที่จะให้ผลรวม -5
\left(x-6\right)\left(x+1\right)
เขียนนิพจน์แยกตัวประกอบใหม่ \left(x+a\right)\left(x+b\right) โดยใช้ค่าที่ได้รับ
x=6 x=-1
เมื่อต้องการค้นหาโซลูชันสมการให้แก้ไข x-6=0 และ x+1=0
\left(x-2\right)x=\left(x+2\right)\times 3
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับค่า -2,2,3 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย \left(x-3\right)\left(x-2\right)\left(x+2\right) ตัวคูณร่วมน้อยของ x^{2}-x-6,x^{2}-5x+6
x^{2}-2x=\left(x+2\right)\times 3
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x-2 ด้วย x
x^{2}-2x=3x+6
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x+2 ด้วย 3
x^{2}-2x-3x=6
ลบ 3x จากทั้งสองด้าน
x^{2}-5x=6
รวม -2x และ -3x เพื่อให้ได้รับ -5x
x^{2}-5x-6=0
ลบ 6 จากทั้งสองด้าน
a+b=-5 ab=1\left(-6\right)=-6
เมื่อต้องการแก้สมการ ให้แยกตัวประกอบทางด้านซ้ายมือโดยการจัดกลุ่ม ขั้นแรกต้องเขียนด้านซ้ายมือใหม่เป็น x^{2}+ax+bx-6 เมื่อต้องการค้นหา a และ b ให้ตั้งค่าระบบเพื่อแก้
1,-6 2,-3
เนื่องจาก ab เป็นค่าลบ a และ b มีสัญลักษณ์ตรงข้ามกัน เนื่องจาก a+b เป็นค่าลบตัวเลขค่าลบมีค่าสัมบูรณ์ที่มากกว่าจำนวนบวก แสดงรายการคู่จำนวนเต็มดังกล่าวทั้งหมดที่ให้ผลิตภัณฑ์ -6
1-6=-5 2-3=-1
คำนวณผลรวมสำหรับแต่ละคู่
a=-6 b=1
โซลูชันเป็นคู่ที่จะให้ผลรวม -5
\left(x^{2}-6x\right)+\left(x-6\right)
เขียน x^{2}-5x-6 ใหม่เป็น \left(x^{2}-6x\right)+\left(x-6\right)
x\left(x-6\right)+x-6
แยกตัวประกอบ x ใน x^{2}-6x
\left(x-6\right)\left(x+1\right)
แยกตัวประกอบของพจน์ร่วม x-6 โดยใช้คุณสมบัติการแจกแจง
x=6 x=-1
เมื่อต้องการค้นหาโซลูชันสมการให้แก้ไข x-6=0 และ x+1=0
\left(x-2\right)x=\left(x+2\right)\times 3
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับค่า -2,2,3 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย \left(x-3\right)\left(x-2\right)\left(x+2\right) ตัวคูณร่วมน้อยของ x^{2}-x-6,x^{2}-5x+6
x^{2}-2x=\left(x+2\right)\times 3
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x-2 ด้วย x
x^{2}-2x=3x+6
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x+2 ด้วย 3
x^{2}-2x-3x=6
ลบ 3x จากทั้งสองด้าน
x^{2}-5x=6
รวม -2x และ -3x เพื่อให้ได้รับ -5x
x^{2}-5x-6=0
ลบ 6 จากทั้งสองด้าน
x=\frac{-\left(-5\right)±\sqrt{\left(-5\right)^{2}-4\left(-6\right)}}{2}
สมการนี้อยู่ในรูปมาตรฐาน: ax^{2}+bx+c=0 ใช้ 1 แทน a, -5 แทน b และ -6 แทน c ในสูตรกำลังสอง \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a}
x=\frac{-\left(-5\right)±\sqrt{25-4\left(-6\right)}}{2}
ยกกำลังสอง -5
x=\frac{-\left(-5\right)±\sqrt{25+24}}{2}
คูณ -4 ด้วย -6
x=\frac{-\left(-5\right)±\sqrt{49}}{2}
เพิ่ม 25 ไปยัง 24
x=\frac{-\left(-5\right)±7}{2}
หารากที่สองของ 49
x=\frac{5±7}{2}
ตรงข้ามกับ -5 คือ 5
x=\frac{12}{2}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{5±7}{2} เมื่อ ± เป็นบวก เพิ่ม 5 ไปยัง 7
x=6
หาร 12 ด้วย 2
x=-\frac{2}{2}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{5±7}{2} เมื่อ ± เป็นลบ ลบ 7 จาก 5
x=-1
หาร -2 ด้วย 2
x=6 x=-1
สมการได้รับการแก้ไขแล้ว
\left(x-2\right)x=\left(x+2\right)\times 3
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับค่า -2,2,3 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย \left(x-3\right)\left(x-2\right)\left(x+2\right) ตัวคูณร่วมน้อยของ x^{2}-x-6,x^{2}-5x+6
x^{2}-2x=\left(x+2\right)\times 3
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x-2 ด้วย x
x^{2}-2x=3x+6
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x+2 ด้วย 3
x^{2}-2x-3x=6
ลบ 3x จากทั้งสองด้าน
x^{2}-5x=6
รวม -2x และ -3x เพื่อให้ได้รับ -5x
x^{2}-5x+\left(-\frac{5}{2}\right)^{2}=6+\left(-\frac{5}{2}\right)^{2}
หาร -5 สัมประสิทธิ์ของพจน์ x ด้วย 2 เพื่อรับ -\frac{5}{2} จากนั้นเพิ่มกำลังสองของ -\frac{5}{2} ไปยังทั้งสองข้างของสมการ ขั้นตอนนี้จะทำให้ด้านซ้ายของสมการเป็นกำลังสองสมบูรณ์
x^{2}-5x+\frac{25}{4}=6+\frac{25}{4}
ยกกำลังสอง -\frac{5}{2} โดยยกกำลังสองทั้งตัวเศษและตัวส่วนของเศษส่วน
x^{2}-5x+\frac{25}{4}=\frac{49}{4}
เพิ่ม 6 ไปยัง \frac{25}{4}
\left(x-\frac{5}{2}\right)^{2}=\frac{49}{4}
ตัวประกอบx^{2}-5x+\frac{25}{4} โดยทั่วไป แล้ว เมื่อx^{2}+bx+cเป็นกําลังสองสมบูรณ์ จะสามารถแยกตัวประกอบเป็น\left(x+\frac{b}{2}\right)^{2}ได้เสมอ
\sqrt{\left(x-\frac{5}{2}\right)^{2}}=\sqrt{\frac{49}{4}}
หารากที่สองของทั้งสองข้างของสมการ
x-\frac{5}{2}=\frac{7}{2} x-\frac{5}{2}=-\frac{7}{2}
ทำให้ง่ายขึ้น
x=6 x=-1
เพิ่ม \frac{5}{2} ไปยังทั้งสองข้างของสมการ
ตัวอย่าง
สมการกำลังสอง
{ x } ^ { 2 } - 4 x - 5 = 0
ตรีโกณมิติ
4 \sin \theta \cos \theta = 2 \sin \theta
สมการเชิงเส้น
y = 3x + 4
เลขคณิต
699 * 533
เมทริกซ์
\left[ \begin{array} { l l } { 2 } & { 3 } \\ { 5 } & { 4 } \end{array} \right] \left[ \begin{array} { l l l } { 2 } & { 0 } & { 3 } \\ { -1 } & { 1 } & { 5 } \end{array} \right]
สมการหลายชั้น
\left. \begin{cases} { 8x+2y = 46 } \\ { 7x+3y = 47 } \end{cases} \right.
การหาอนุพันธ์
\frac { d } { d x } \frac { ( 3 x ^ { 2 } - 2 ) } { ( x - 5 ) }
การหาปริพันธ์
\int _ { 0 } ^ { 1 } x e ^ { - x ^ { 2 } } d x
ลิมิต
\lim _{x \rightarrow-3} \frac{x^{2}-9}{x^{2}+2 x-3}