หาค่า x
x=2
x=12
กราฟ
แชร์
คัดลอกไปยังคลิปบอร์ดแล้ว
\left(x-6\right)\times 4+x\times 4=x\left(x-6\right)
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับค่า 0,6 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย x\left(x-6\right) ตัวคูณร่วมน้อยของ x,x-6
4x-24+x\times 4=x\left(x-6\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x-6 ด้วย 4
8x-24=x\left(x-6\right)
รวม 4x และ x\times 4 เพื่อให้ได้รับ 8x
8x-24=x^{2}-6x
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x ด้วย x-6
8x-24-x^{2}=-6x
ลบ x^{2} จากทั้งสองด้าน
8x-24-x^{2}+6x=0
เพิ่ม 6x ไปทั้งสองด้าน
14x-24-x^{2}=0
รวม 8x และ 6x เพื่อให้ได้รับ 14x
-x^{2}+14x-24=0
จัดเรียงพหุเพื่อวางไว้ในรูปแบบมาตรฐาน วางพจน์ตามลำดับจากกำลังสูงสุดถึงต่ำสุด
a+b=14 ab=-\left(-24\right)=24
เมื่อต้องการแก้ไขสมการ ให้แยกตัวประกอบทางด้านซ้ายมือโดยการจัดกลุ่ม ต้องมีการเขียนใหม่ด้านซ้ายมืออีกครั้งเนื่องจาก -x^{2}+ax+bx-24 เมื่อต้องการค้นหา a และ b ให้ตั้งค่าระบบเพื่อแก้ไข
1,24 2,12 3,8 4,6
เนื่องจาก ab เป็นค่าบวก a และ b มีเครื่องหมายเหมือนกัน เนื่องจาก a+b เป็นบวก a และ b มีทั้งค่าบวก แสดงรายการคู่จำนวนเต็มดังกล่าวทั้งหมดที่ให้ผลิตภัณฑ์ 24
1+24=25 2+12=14 3+8=11 4+6=10
คำนวณผลรวมสำหรับแต่ละคู่
a=12 b=2
ผลเฉลยเป็นคู่ที่ให้ผลรวม 14
\left(-x^{2}+12x\right)+\left(2x-24\right)
เขียน -x^{2}+14x-24 ใหม่เป็น \left(-x^{2}+12x\right)+\left(2x-24\right)
-x\left(x-12\right)+2\left(x-12\right)
แยกตัวประกอบ -x ในกลุ่มแรกและ 2 ในกลุ่มที่สอง
\left(x-12\right)\left(-x+2\right)
แยกตัวประกอบของพจน์ร่วม x-12 โดยใช้คุณสมบัติการแจกแจง
x=12 x=2
เมื่อต้องการค้นหาผลเฉลยสมการ ให้แก้ x-12=0 และ -x+2=0
\left(x-6\right)\times 4+x\times 4=x\left(x-6\right)
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับค่า 0,6 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย x\left(x-6\right) ตัวคูณร่วมน้อยของ x,x-6
4x-24+x\times 4=x\left(x-6\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x-6 ด้วย 4
8x-24=x\left(x-6\right)
รวม 4x และ x\times 4 เพื่อให้ได้รับ 8x
8x-24=x^{2}-6x
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x ด้วย x-6
8x-24-x^{2}=-6x
ลบ x^{2} จากทั้งสองด้าน
8x-24-x^{2}+6x=0
เพิ่ม 6x ไปทั้งสองด้าน
14x-24-x^{2}=0
รวม 8x และ 6x เพื่อให้ได้รับ 14x
-x^{2}+14x-24=0
สมการทั้งหมดของรูปแบบ ax^{2}+bx+c=0 จะสามารถแก้ไขได้โดยใช้สูตรยกกำลัง: \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a} ได้ สูตรยกกำลังจะช่วยให้ได้รับสองผลเฉลย หนึ่งคือเมื่อ ± เป็นบวกและอีกหนึ่งคือเมื่อเป็นลบ
x=\frac{-14±\sqrt{14^{2}-4\left(-1\right)\left(-24\right)}}{2\left(-1\right)}
สมการนี้อยู่ในรูปมาตรฐาน: ax^{2}+bx+c=0 ใช้ -1 แทน a, 14 แทน b และ -24 แทน c ในสูตรกำลังสอง \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a}
x=\frac{-14±\sqrt{196-4\left(-1\right)\left(-24\right)}}{2\left(-1\right)}
ยกกำลังสอง 14
x=\frac{-14±\sqrt{196+4\left(-24\right)}}{2\left(-1\right)}
คูณ -4 ด้วย -1
x=\frac{-14±\sqrt{196-96}}{2\left(-1\right)}
คูณ 4 ด้วย -24
x=\frac{-14±\sqrt{100}}{2\left(-1\right)}
เพิ่ม 196 ไปยัง -96
x=\frac{-14±10}{2\left(-1\right)}
หารากที่สองของ 100
x=\frac{-14±10}{-2}
คูณ 2 ด้วย -1
x=-\frac{4}{-2}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{-14±10}{-2} เมื่อ ± เป็นบวก เพิ่ม -14 ไปยัง 10
x=2
หาร -4 ด้วย -2
x=-\frac{24}{-2}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{-14±10}{-2} เมื่อ ± เป็นลบ ลบ 10 จาก -14
x=12
หาร -24 ด้วย -2
x=2 x=12
สมการได้รับการแก้ไขแล้ว
\left(x-6\right)\times 4+x\times 4=x\left(x-6\right)
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับค่า 0,6 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย x\left(x-6\right) ตัวคูณร่วมน้อยของ x,x-6
4x-24+x\times 4=x\left(x-6\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x-6 ด้วย 4
8x-24=x\left(x-6\right)
รวม 4x และ x\times 4 เพื่อให้ได้รับ 8x
8x-24=x^{2}-6x
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x ด้วย x-6
8x-24-x^{2}=-6x
ลบ x^{2} จากทั้งสองด้าน
8x-24-x^{2}+6x=0
เพิ่ม 6x ไปทั้งสองด้าน
14x-24-x^{2}=0
รวม 8x และ 6x เพื่อให้ได้รับ 14x
14x-x^{2}=24
เพิ่ม 24 ไปทั้งสองด้าน สิ่งใดบวกกับศูนย์จะได้ผลเป็นตัวเอง
-x^{2}+14x=24
สมการกำลังสองเช่นนี้จะสามารถหาค่าได้ ด้วยการทำให้เป็นกำลังสองสมบูรณ์ ในการทำให้เป็นกำลังสองสมบูรณ์ ขั้นแรกสมการต้องอยู่ในรูปแบบ x^{2}+bx=c
\frac{-x^{2}+14x}{-1}=\frac{24}{-1}
หารทั้งสองข้างด้วย -1
x^{2}+\frac{14}{-1}x=\frac{24}{-1}
หารด้วย -1 เลิกทำการคูณด้วย -1
x^{2}-14x=\frac{24}{-1}
หาร 14 ด้วย -1
x^{2}-14x=-24
หาร 24 ด้วย -1
x^{2}-14x+\left(-7\right)^{2}=-24+\left(-7\right)^{2}
หาร -14 สัมประสิทธิ์ของพจน์ x ด้วย 2 เพื่อรับ -7 จากนั้นเพิ่มกำลังสองของ -7 ไปยังทั้งสองข้างของสมการ ขั้นตอนนี้จะทำให้ด้านซ้ายของสมการเป็นกำลังสองสมบูรณ์
x^{2}-14x+49=-24+49
ยกกำลังสอง -7
x^{2}-14x+49=25
เพิ่ม -24 ไปยัง 49
\left(x-7\right)^{2}=25
ตัวประกอบ x^{2}-14x+49 โดยทั่วไป เมื่อ x^{2}+bx+c เป็นกำลังสองสมบูรณ์ จะสามารถแยกตัวประกอบเป็น \left(x+\frac{b}{2}\right)^{2} ได้เสมอ
\sqrt{\left(x-7\right)^{2}}=\sqrt{25}
หารากที่สองของทั้งสองข้างของสมการ
x-7=5 x-7=-5
ทำให้ง่ายขึ้น
x=12 x=2
เพิ่ม 7 ไปยังทั้งสองข้างของสมการ
ตัวอย่าง
สมการกำลังสอง
{ x } ^ { 2 } - 4 x - 5 = 0
ตรีโกณมิติ
4 \sin \theta \cos \theta = 2 \sin \theta
สมการเชิงเส้น
y = 3x + 4
เลขคณิต
699 * 533
เมทริกซ์
\left[ \begin{array} { l l } { 2 } & { 3 } \\ { 5 } & { 4 } \end{array} \right] \left[ \begin{array} { l l l } { 2 } & { 0 } & { 3 } \\ { -1 } & { 1 } & { 5 } \end{array} \right]
สมการหลายชั้น
\left. \begin{cases} { 8x+2y = 46 } \\ { 7x+3y = 47 } \end{cases} \right.
การหาอนุพันธ์
\frac { d } { d x } \frac { ( 3 x ^ { 2 } - 2 ) } { ( x - 5 ) }
การหาปริพันธ์
\int _ { 0 } ^ { 1 } x e ^ { - x ^ { 2 } } d x
ลิมิต
\lim _{x \rightarrow-3} \frac{x^{2}-9}{x^{2}+2 x-3}