หาค่า x
x=1
กราฟ
แชร์
คัดลอกไปยังคลิปบอร์ดแล้ว
2x\times 3=2\times 1x+x\times 4x
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ 0 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย 2x^{2} ตัวคูณร่วมน้อยของ x,x^{2},2x
2x\times 3=2\times 1x+x^{2}\times 4
คูณ x และ x เพื่อรับ x^{2}
6x=2\times 1x+x^{2}\times 4
คูณ 2 และ 3 เพื่อรับ 6
6x=2x+x^{2}\times 4
คูณ 2 และ 1 เพื่อรับ 2
6x-2x=x^{2}\times 4
ลบ 2x จากทั้งสองด้าน
4x=x^{2}\times 4
รวม 6x และ -2x เพื่อให้ได้รับ 4x
4x-x^{2}\times 4=0
ลบ x^{2}\times 4 จากทั้งสองด้าน
4x-4x^{2}=0
คูณ -1 และ 4 เพื่อรับ -4
x\left(4-4x\right)=0
แยกตัวประกอบ x
x=0 x=1
เมื่อต้องการค้นหาโซลูชันสมการให้แก้ไข x=0 และ 4-4x=0
x=1
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ 0
2x\times 3=2\times 1x+x\times 4x
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ 0 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย 2x^{2} ตัวคูณร่วมน้อยของ x,x^{2},2x
2x\times 3=2\times 1x+x^{2}\times 4
คูณ x และ x เพื่อรับ x^{2}
6x=2\times 1x+x^{2}\times 4
คูณ 2 และ 3 เพื่อรับ 6
6x=2x+x^{2}\times 4
คูณ 2 และ 1 เพื่อรับ 2
6x-2x=x^{2}\times 4
ลบ 2x จากทั้งสองด้าน
4x=x^{2}\times 4
รวม 6x และ -2x เพื่อให้ได้รับ 4x
4x-x^{2}\times 4=0
ลบ x^{2}\times 4 จากทั้งสองด้าน
4x-4x^{2}=0
คูณ -1 และ 4 เพื่อรับ -4
-4x^{2}+4x=0
สมการทั้งหมดของรูปแบบ ax^{2}+bx+c=0 จะสามารถแก้ไขได้โดยใช้สูตรยกกำลัง: \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a} ได้ สูตรยกกำลังจะช่วยให้ได้รับสองผลเฉลย หนึ่งคือเมื่อ ± เป็นบวกและอีกหนึ่งคือเมื่อเป็นลบ
x=\frac{-4±\sqrt{4^{2}}}{2\left(-4\right)}
สมการนี้อยู่ในรูปมาตรฐาน: ax^{2}+bx+c=0 ใช้ -4 แทน a, 4 แทน b และ 0 แทน c ในสูตรกำลังสอง \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a}
x=\frac{-4±4}{2\left(-4\right)}
หารากที่สองของ 4^{2}
x=\frac{-4±4}{-8}
คูณ 2 ด้วย -4
x=\frac{0}{-8}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{-4±4}{-8} เมื่อ ± เป็นบวก เพิ่ม -4 ไปยัง 4
x=0
หาร 0 ด้วย -8
x=-\frac{8}{-8}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{-4±4}{-8} เมื่อ ± เป็นลบ ลบ 4 จาก -4
x=1
หาร -8 ด้วย -8
x=0 x=1
สมการได้รับการแก้ไขแล้ว
x=1
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ 0
2x\times 3=2\times 1x+x\times 4x
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ 0 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย 2x^{2} ตัวคูณร่วมน้อยของ x,x^{2},2x
2x\times 3=2\times 1x+x^{2}\times 4
คูณ x และ x เพื่อรับ x^{2}
6x=2\times 1x+x^{2}\times 4
คูณ 2 และ 3 เพื่อรับ 6
6x=2x+x^{2}\times 4
คูณ 2 และ 1 เพื่อรับ 2
6x-2x=x^{2}\times 4
ลบ 2x จากทั้งสองด้าน
4x=x^{2}\times 4
รวม 6x และ -2x เพื่อให้ได้รับ 4x
4x-x^{2}\times 4=0
ลบ x^{2}\times 4 จากทั้งสองด้าน
4x-4x^{2}=0
คูณ -1 และ 4 เพื่อรับ -4
-4x^{2}+4x=0
สมการกำลังสองเช่นนี้จะสามารถหาค่าได้ ด้วยการทำให้เป็นกำลังสองสมบูรณ์ ในการทำให้เป็นกำลังสองสมบูรณ์ ขั้นแรกสมการต้องอยู่ในรูปแบบ x^{2}+bx=c
\frac{-4x^{2}+4x}{-4}=\frac{0}{-4}
หารทั้งสองข้างด้วย -4
x^{2}+\frac{4}{-4}x=\frac{0}{-4}
หารด้วย -4 เลิกทำการคูณด้วย -4
x^{2}-x=\frac{0}{-4}
หาร 4 ด้วย -4
x^{2}-x=0
หาร 0 ด้วย -4
x^{2}-x+\left(-\frac{1}{2}\right)^{2}=\left(-\frac{1}{2}\right)^{2}
หาร -1 สัมประสิทธิ์ของพจน์ x ด้วย 2 เพื่อรับ -\frac{1}{2} จากนั้นเพิ่มกำลังสองของ -\frac{1}{2} ไปยังทั้งสองข้างของสมการ ขั้นตอนนี้จะทำให้ด้านซ้ายของสมการเป็นกำลังสองสมบูรณ์
x^{2}-x+\frac{1}{4}=\frac{1}{4}
ยกกำลังสอง -\frac{1}{2} โดยยกกำลังสองทั้งตัวเศษและตัวส่วนของเศษส่วน
\left(x-\frac{1}{2}\right)^{2}=\frac{1}{4}
ตัวประกอบx^{2}-x+\frac{1}{4} โดยทั่วไป แล้ว เมื่อx^{2}+bx+cเป็นกําลังสองสมบูรณ์ จะสามารถแยกตัวประกอบเป็น\left(x+\frac{b}{2}\right)^{2}ได้เสมอ
\sqrt{\left(x-\frac{1}{2}\right)^{2}}=\sqrt{\frac{1}{4}}
หารากที่สองของทั้งสองข้างของสมการ
x-\frac{1}{2}=\frac{1}{2} x-\frac{1}{2}=-\frac{1}{2}
ทำให้ง่ายขึ้น
x=1 x=0
เพิ่ม \frac{1}{2} ไปยังทั้งสองข้างของสมการ
x=1
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ 0
ตัวอย่าง
สมการกำลังสอง
{ x } ^ { 2 } - 4 x - 5 = 0
ตรีโกณมิติ
4 \sin \theta \cos \theta = 2 \sin \theta
สมการเชิงเส้น
y = 3x + 4
เลขคณิต
699 * 533
เมทริกซ์
\left[ \begin{array} { l l } { 2 } & { 3 } \\ { 5 } & { 4 } \end{array} \right] \left[ \begin{array} { l l l } { 2 } & { 0 } & { 3 } \\ { -1 } & { 1 } & { 5 } \end{array} \right]
สมการหลายชั้น
\left. \begin{cases} { 8x+2y = 46 } \\ { 7x+3y = 47 } \end{cases} \right.
การหาอนุพันธ์
\frac { d } { d x } \frac { ( 3 x ^ { 2 } - 2 ) } { ( x - 5 ) }
การหาปริพันธ์
\int _ { 0 } ^ { 1 } x e ^ { - x ^ { 2 } } d x
ลิมิต
\lim _{x \rightarrow-3} \frac{x^{2}-9}{x^{2}+2 x-3}