หาค่า x
x=-5
กราฟ
แชร์
คัดลอกไปยังคลิปบอร์ดแล้ว
\left(x-2\right)\times 16+\left(x+3\right)\times 4-\left(3-x\right)\times 5\left(x+2\right)=0
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับค่า -3,2,3 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย \left(x-3\right)\left(x-2\right)\left(x+3\right) ตัวคูณร่วมน้อยของ x^{2}-9,x^{2}-5x+6,6-x-x^{2}
16x-32+\left(x+3\right)\times 4-\left(3-x\right)\times 5\left(x+2\right)=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x-2 ด้วย 16
16x-32+4x+12-\left(3-x\right)\times 5\left(x+2\right)=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x+3 ด้วย 4
20x-32+12-\left(3-x\right)\times 5\left(x+2\right)=0
รวม 16x และ 4x เพื่อให้ได้รับ 20x
20x-20-\left(3-x\right)\times 5\left(x+2\right)=0
เพิ่ม -32 และ 12 เพื่อให้ได้รับ -20
20x-20-\left(15-5x\right)\left(x+2\right)=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 3-x ด้วย 5
20x-20-\left(5x+30-5x^{2}\right)=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 15-5x ด้วย x+2 และรวมพจน์ที่เหมือนกัน
20x-20-5x-30+5x^{2}=0
เมื่อต้องการค้นหาค่าตรงข้ามของ 5x+30-5x^{2} ให้ค้นหาค่าตรงข้ามของแต่ละพจน์
15x-20-30+5x^{2}=0
รวม 20x และ -5x เพื่อให้ได้รับ 15x
15x-50+5x^{2}=0
ลบ 30 จาก -20 เพื่อรับ -50
3x-10+x^{2}=0
หารทั้งสองข้างด้วย 5
x^{2}+3x-10=0
จัดเรียงพหุนามให้อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน วางตามลำดับจากดีกรีที่มากที่สุดไปหาน้อยที่สุด
a+b=3 ab=1\left(-10\right)=-10
เมื่อต้องการแก้สมการ ให้แยกตัวประกอบทางด้านซ้ายมือโดยการจัดกลุ่ม ขั้นแรกต้องเขียนด้านซ้ายมือใหม่เป็น x^{2}+ax+bx-10 เมื่อต้องการค้นหา a และ b ให้ตั้งค่าระบบเพื่อแก้
-1,10 -2,5
เนื่องจาก ab เป็นค่าลบ a และ b มีสัญลักษณ์ตรงข้ามกัน เนื่องจาก a+b เป็นบวกจำนวนบวกมีค่าสัมบูรณ์ที่มากกว่าจุดลบ แสดงรายการคู่จำนวนเต็มดังกล่าวทั้งหมดที่ให้ผลิตภัณฑ์ -10
-1+10=9 -2+5=3
คำนวณผลรวมสำหรับแต่ละคู่
a=-2 b=5
โซลูชันเป็นคู่ที่จะให้ผลรวม 3
\left(x^{2}-2x\right)+\left(5x-10\right)
เขียน x^{2}+3x-10 ใหม่เป็น \left(x^{2}-2x\right)+\left(5x-10\right)
x\left(x-2\right)+5\left(x-2\right)
แยกตัวประกอบ x ในกลุ่มแรกและ 5 ใน
\left(x-2\right)\left(x+5\right)
แยกตัวประกอบของพจน์ร่วม x-2 โดยใช้คุณสมบัติการแจกแจง
x=2 x=-5
เมื่อต้องการค้นหาโซลูชันสมการให้แก้ไข x-2=0 และ x+5=0
x=-5
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ 2
\left(x-2\right)\times 16+\left(x+3\right)\times 4-\left(3-x\right)\times 5\left(x+2\right)=0
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับค่า -3,2,3 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย \left(x-3\right)\left(x-2\right)\left(x+3\right) ตัวคูณร่วมน้อยของ x^{2}-9,x^{2}-5x+6,6-x-x^{2}
16x-32+\left(x+3\right)\times 4-\left(3-x\right)\times 5\left(x+2\right)=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x-2 ด้วย 16
16x-32+4x+12-\left(3-x\right)\times 5\left(x+2\right)=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x+3 ด้วย 4
20x-32+12-\left(3-x\right)\times 5\left(x+2\right)=0
รวม 16x และ 4x เพื่อให้ได้รับ 20x
20x-20-\left(3-x\right)\times 5\left(x+2\right)=0
เพิ่ม -32 และ 12 เพื่อให้ได้รับ -20
20x-20-\left(15-5x\right)\left(x+2\right)=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 3-x ด้วย 5
20x-20-\left(5x+30-5x^{2}\right)=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 15-5x ด้วย x+2 และรวมพจน์ที่เหมือนกัน
20x-20-5x-30+5x^{2}=0
เมื่อต้องการค้นหาค่าตรงข้ามของ 5x+30-5x^{2} ให้ค้นหาค่าตรงข้ามของแต่ละพจน์
15x-20-30+5x^{2}=0
รวม 20x และ -5x เพื่อให้ได้รับ 15x
15x-50+5x^{2}=0
ลบ 30 จาก -20 เพื่อรับ -50
5x^{2}+15x-50=0
สมการทั้งหมดของรูปแบบ ax^{2}+bx+c=0 จะสามารถแก้ไขได้โดยใช้สูตรยกกำลัง: \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a} ได้ สูตรยกกำลังจะช่วยให้ได้รับสองผลเฉลย หนึ่งคือเมื่อ ± เป็นบวกและอีกหนึ่งคือเมื่อเป็นลบ
x=\frac{-15±\sqrt{15^{2}-4\times 5\left(-50\right)}}{2\times 5}
สมการนี้อยู่ในรูปมาตรฐาน: ax^{2}+bx+c=0 ใช้ 5 แทน a, 15 แทน b และ -50 แทน c ในสูตรกำลังสอง \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a}
x=\frac{-15±\sqrt{225-4\times 5\left(-50\right)}}{2\times 5}
ยกกำลังสอง 15
x=\frac{-15±\sqrt{225-20\left(-50\right)}}{2\times 5}
คูณ -4 ด้วย 5
x=\frac{-15±\sqrt{225+1000}}{2\times 5}
คูณ -20 ด้วย -50
x=\frac{-15±\sqrt{1225}}{2\times 5}
เพิ่ม 225 ไปยัง 1000
x=\frac{-15±35}{2\times 5}
หารากที่สองของ 1225
x=\frac{-15±35}{10}
คูณ 2 ด้วย 5
x=\frac{20}{10}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{-15±35}{10} เมื่อ ± เป็นบวก เพิ่ม -15 ไปยัง 35
x=2
หาร 20 ด้วย 10
x=-\frac{50}{10}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{-15±35}{10} เมื่อ ± เป็นลบ ลบ 35 จาก -15
x=-5
หาร -50 ด้วย 10
x=2 x=-5
สมการได้รับการแก้ไขแล้ว
x=-5
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ 2
\left(x-2\right)\times 16+\left(x+3\right)\times 4-\left(3-x\right)\times 5\left(x+2\right)=0
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับค่า -3,2,3 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย \left(x-3\right)\left(x-2\right)\left(x+3\right) ตัวคูณร่วมน้อยของ x^{2}-9,x^{2}-5x+6,6-x-x^{2}
16x-32+\left(x+3\right)\times 4-\left(3-x\right)\times 5\left(x+2\right)=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x-2 ด้วย 16
16x-32+4x+12-\left(3-x\right)\times 5\left(x+2\right)=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x+3 ด้วย 4
20x-32+12-\left(3-x\right)\times 5\left(x+2\right)=0
รวม 16x และ 4x เพื่อให้ได้รับ 20x
20x-20-\left(3-x\right)\times 5\left(x+2\right)=0
เพิ่ม -32 และ 12 เพื่อให้ได้รับ -20
20x-20-\left(15-5x\right)\left(x+2\right)=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 3-x ด้วย 5
20x-20-\left(5x+30-5x^{2}\right)=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 15-5x ด้วย x+2 และรวมพจน์ที่เหมือนกัน
20x-20-5x-30+5x^{2}=0
เมื่อต้องการค้นหาค่าตรงข้ามของ 5x+30-5x^{2} ให้ค้นหาค่าตรงข้ามของแต่ละพจน์
15x-20-30+5x^{2}=0
รวม 20x และ -5x เพื่อให้ได้รับ 15x
15x-50+5x^{2}=0
ลบ 30 จาก -20 เพื่อรับ -50
15x+5x^{2}=50
เพิ่ม 50 ไปทั้งสองด้าน สิ่งใดบวกกับศูนย์จะได้ผลเป็นตัวเอง
5x^{2}+15x=50
สมการกำลังสองเช่นนี้จะสามารถหาค่าได้ ด้วยการทำให้เป็นกำลังสองสมบูรณ์ ในการทำให้เป็นกำลังสองสมบูรณ์ ขั้นแรกสมการต้องอยู่ในรูปแบบ x^{2}+bx=c
\frac{5x^{2}+15x}{5}=\frac{50}{5}
หารทั้งสองข้างด้วย 5
x^{2}+\frac{15}{5}x=\frac{50}{5}
หารด้วย 5 เลิกทำการคูณด้วย 5
x^{2}+3x=\frac{50}{5}
หาร 15 ด้วย 5
x^{2}+3x=10
หาร 50 ด้วย 5
x^{2}+3x+\left(\frac{3}{2}\right)^{2}=10+\left(\frac{3}{2}\right)^{2}
หาร 3 สัมประสิทธิ์ของพจน์ x ด้วย 2 เพื่อรับ \frac{3}{2} จากนั้นเพิ่มกำลังสองของ \frac{3}{2} ไปยังทั้งสองข้างของสมการ ขั้นตอนนี้จะทำให้ด้านซ้ายของสมการเป็นกำลังสองสมบูรณ์
x^{2}+3x+\frac{9}{4}=10+\frac{9}{4}
ยกกำลังสอง \frac{3}{2} โดยยกกำลังสองทั้งตัวเศษและตัวส่วนของเศษส่วน
x^{2}+3x+\frac{9}{4}=\frac{49}{4}
เพิ่ม 10 ไปยัง \frac{9}{4}
\left(x+\frac{3}{2}\right)^{2}=\frac{49}{4}
ตัวประกอบx^{2}+3x+\frac{9}{4} โดยทั่วไป แล้ว เมื่อx^{2}+bx+cเป็นกําลังสองสมบูรณ์ จะสามารถแยกตัวประกอบเป็น\left(x+\frac{b}{2}\right)^{2}ได้เสมอ
\sqrt{\left(x+\frac{3}{2}\right)^{2}}=\sqrt{\frac{49}{4}}
หารากที่สองของทั้งสองข้างของสมการ
x+\frac{3}{2}=\frac{7}{2} x+\frac{3}{2}=-\frac{7}{2}
ทำให้ง่ายขึ้น
x=2 x=-5
ลบ \frac{3}{2} จากทั้งสองข้างของสมการ
x=-5
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ 2
ตัวอย่าง
สมการกำลังสอง
{ x } ^ { 2 } - 4 x - 5 = 0
ตรีโกณมิติ
4 \sin \theta \cos \theta = 2 \sin \theta
สมการเชิงเส้น
y = 3x + 4
เลขคณิต
699 * 533
เมทริกซ์
\left[ \begin{array} { l l } { 2 } & { 3 } \\ { 5 } & { 4 } \end{array} \right] \left[ \begin{array} { l l l } { 2 } & { 0 } & { 3 } \\ { -1 } & { 1 } & { 5 } \end{array} \right]
สมการหลายชั้น
\left. \begin{cases} { 8x+2y = 46 } \\ { 7x+3y = 47 } \end{cases} \right.
การหาอนุพันธ์
\frac { d } { d x } \frac { ( 3 x ^ { 2 } - 2 ) } { ( x - 5 ) }
การหาปริพันธ์
\int _ { 0 } ^ { 1 } x e ^ { - x ^ { 2 } } d x
ลิมิต
\lim _{x \rightarrow-3} \frac{x^{2}-9}{x^{2}+2 x-3}