หาค่า p
p=\frac{-4+\sqrt{134}i}{5}\approx -0.8+2.315167381i
p=\frac{-\sqrt{134}i-4}{5}\approx -0.8-2.315167381i
แชร์
คัดลอกไปยังคลิปบอร์ดแล้ว
\left(p+2\right)\times 15+p\left(6p-5\right)=p\left(p+2\right)
ตัวแปร p ไม่สามารถเท่ากับค่า -2,0 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย p\left(p+2\right) ตัวคูณร่วมน้อยของ p,p+2
15p+30+p\left(6p-5\right)=p\left(p+2\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ p+2 ด้วย 15
15p+30+6p^{2}-5p=p\left(p+2\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ p ด้วย 6p-5
10p+30+6p^{2}=p\left(p+2\right)
รวม 15p และ -5p เพื่อให้ได้รับ 10p
10p+30+6p^{2}=p^{2}+2p
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ p ด้วย p+2
10p+30+6p^{2}-p^{2}=2p
ลบ p^{2} จากทั้งสองด้าน
10p+30+5p^{2}=2p
รวม 6p^{2} และ -p^{2} เพื่อให้ได้รับ 5p^{2}
10p+30+5p^{2}-2p=0
ลบ 2p จากทั้งสองด้าน
8p+30+5p^{2}=0
รวม 10p และ -2p เพื่อให้ได้รับ 8p
5p^{2}+8p+30=0
สมการทั้งหมดของรูปแบบ ax^{2}+bx+c=0 จะสามารถแก้ไขได้โดยใช้สูตรยกกำลัง: \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a} ได้ สูตรยกกำลังจะช่วยให้ได้รับสองผลเฉลย หนึ่งคือเมื่อ ± เป็นบวกและอีกหนึ่งคือเมื่อเป็นลบ
p=\frac{-8±\sqrt{8^{2}-4\times 5\times 30}}{2\times 5}
สมการนี้อยู่ในรูปมาตรฐาน: ax^{2}+bx+c=0 ใช้ 5 แทน a, 8 แทน b และ 30 แทน c ในสูตรกำลังสอง \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a}
p=\frac{-8±\sqrt{64-4\times 5\times 30}}{2\times 5}
ยกกำลังสอง 8
p=\frac{-8±\sqrt{64-20\times 30}}{2\times 5}
คูณ -4 ด้วย 5
p=\frac{-8±\sqrt{64-600}}{2\times 5}
คูณ -20 ด้วย 30
p=\frac{-8±\sqrt{-536}}{2\times 5}
เพิ่ม 64 ไปยัง -600
p=\frac{-8±2\sqrt{134}i}{2\times 5}
หารากที่สองของ -536
p=\frac{-8±2\sqrt{134}i}{10}
คูณ 2 ด้วย 5
p=\frac{-8+2\sqrt{134}i}{10}
ตอนนี้ แก้สมการ p=\frac{-8±2\sqrt{134}i}{10} เมื่อ ± เป็นบวก เพิ่ม -8 ไปยัง 2i\sqrt{134}
p=\frac{-4+\sqrt{134}i}{5}
หาร -8+2i\sqrt{134} ด้วย 10
p=\frac{-2\sqrt{134}i-8}{10}
ตอนนี้ แก้สมการ p=\frac{-8±2\sqrt{134}i}{10} เมื่อ ± เป็นลบ ลบ 2i\sqrt{134} จาก -8
p=\frac{-\sqrt{134}i-4}{5}
หาร -8-2i\sqrt{134} ด้วย 10
p=\frac{-4+\sqrt{134}i}{5} p=\frac{-\sqrt{134}i-4}{5}
สมการได้รับการแก้ไขแล้ว
\left(p+2\right)\times 15+p\left(6p-5\right)=p\left(p+2\right)
ตัวแปร p ไม่สามารถเท่ากับค่า -2,0 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย p\left(p+2\right) ตัวคูณร่วมน้อยของ p,p+2
15p+30+p\left(6p-5\right)=p\left(p+2\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ p+2 ด้วย 15
15p+30+6p^{2}-5p=p\left(p+2\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ p ด้วย 6p-5
10p+30+6p^{2}=p\left(p+2\right)
รวม 15p และ -5p เพื่อให้ได้รับ 10p
10p+30+6p^{2}=p^{2}+2p
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ p ด้วย p+2
10p+30+6p^{2}-p^{2}=2p
ลบ p^{2} จากทั้งสองด้าน
10p+30+5p^{2}=2p
รวม 6p^{2} และ -p^{2} เพื่อให้ได้รับ 5p^{2}
10p+30+5p^{2}-2p=0
ลบ 2p จากทั้งสองด้าน
8p+30+5p^{2}=0
รวม 10p และ -2p เพื่อให้ได้รับ 8p
8p+5p^{2}=-30
ลบ 30 จากทั้งสองด้าน สิ่งใดลบออกจากศูนย์จะได้ผลเป็นตัวเองที่เป็นค่าลบ
5p^{2}+8p=-30
สมการกำลังสองเช่นนี้จะสามารถหาค่าได้ ด้วยการทำให้เป็นกำลังสองสมบูรณ์ ในการทำให้เป็นกำลังสองสมบูรณ์ ขั้นแรกสมการต้องอยู่ในรูปแบบ x^{2}+bx=c
\frac{5p^{2}+8p}{5}=-\frac{30}{5}
หารทั้งสองข้างด้วย 5
p^{2}+\frac{8}{5}p=-\frac{30}{5}
หารด้วย 5 เลิกทำการคูณด้วย 5
p^{2}+\frac{8}{5}p=-6
หาร -30 ด้วย 5
p^{2}+\frac{8}{5}p+\left(\frac{4}{5}\right)^{2}=-6+\left(\frac{4}{5}\right)^{2}
หาร \frac{8}{5} สัมประสิทธิ์ของพจน์ x ด้วย 2 เพื่อรับ \frac{4}{5} จากนั้นเพิ่มกำลังสองของ \frac{4}{5} ไปยังทั้งสองข้างของสมการ ขั้นตอนนี้จะทำให้ด้านซ้ายของสมการเป็นกำลังสองสมบูรณ์
p^{2}+\frac{8}{5}p+\frac{16}{25}=-6+\frac{16}{25}
ยกกำลังสอง \frac{4}{5} โดยยกกำลังสองทั้งตัวเศษและตัวส่วนของเศษส่วน
p^{2}+\frac{8}{5}p+\frac{16}{25}=-\frac{134}{25}
เพิ่ม -6 ไปยัง \frac{16}{25}
\left(p+\frac{4}{5}\right)^{2}=-\frac{134}{25}
ตัวประกอบp^{2}+\frac{8}{5}p+\frac{16}{25} โดยทั่วไป แล้ว เมื่อx^{2}+bx+cเป็นกําลังสองสมบูรณ์ จะสามารถแยกตัวประกอบเป็น\left(x+\frac{b}{2}\right)^{2}ได้เสมอ
\sqrt{\left(p+\frac{4}{5}\right)^{2}}=\sqrt{-\frac{134}{25}}
หารากที่สองของทั้งสองข้างของสมการ
p+\frac{4}{5}=\frac{\sqrt{134}i}{5} p+\frac{4}{5}=-\frac{\sqrt{134}i}{5}
ทำให้ง่ายขึ้น
p=\frac{-4+\sqrt{134}i}{5} p=\frac{-\sqrt{134}i-4}{5}
ลบ \frac{4}{5} จากทั้งสองข้างของสมการ
ตัวอย่าง
สมการกำลังสอง
{ x } ^ { 2 } - 4 x - 5 = 0
ตรีโกณมิติ
4 \sin \theta \cos \theta = 2 \sin \theta
สมการเชิงเส้น
y = 3x + 4
เลขคณิต
699 * 533
เมทริกซ์
\left[ \begin{array} { l l } { 2 } & { 3 } \\ { 5 } & { 4 } \end{array} \right] \left[ \begin{array} { l l l } { 2 } & { 0 } & { 3 } \\ { -1 } & { 1 } & { 5 } \end{array} \right]
สมการหลายชั้น
\left. \begin{cases} { 8x+2y = 46 } \\ { 7x+3y = 47 } \end{cases} \right.
การหาอนุพันธ์
\frac { d } { d x } \frac { ( 3 x ^ { 2 } - 2 ) } { ( x - 5 ) }
การหาปริพันธ์
\int _ { 0 } ^ { 1 } x e ^ { - x ^ { 2 } } d x
ลิมิต
\lim _{x \rightarrow-3} \frac{x^{2}-9}{x^{2}+2 x-3}