ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
หาค่า x
Tick mark Image
กราฟ

โจทย์ปัญหาที่คล้ายคลึงกันจากการค้นหาในเว็บ

แชร์

\frac{27}{4}+12+54x\left(8x+9\right)^{-1}=x
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ 0 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย 12x ตัวคูณร่วมน้อยของ x,12
\frac{75}{4}+54x\left(8x+9\right)^{-1}=x
เพิ่ม \frac{27}{4} และ 12 เพื่อให้ได้รับ \frac{75}{4}
\frac{75}{4}+54x\left(8x+9\right)^{-1}-x=0
ลบ x จากทั้งสองด้าน
-x+54\times \frac{1}{8x+9}x+\frac{75}{4}=0
เรียงลำดับพจน์ใหม่
-x\times 4\left(8x+9\right)+54\times 4\times 1x+4\left(8x+9\right)\times \frac{75}{4}=0
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ -\frac{9}{8} เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย 4\left(8x+9\right) ตัวคูณร่วมน้อยของ 8x+9,4
-4x\left(8x+9\right)+54\times 4\times 1x+4\left(8x+9\right)\times \frac{75}{4}=0
คูณ -1 และ 4 เพื่อรับ -4
-32x^{2}-36x+54\times 4\times 1x+4\left(8x+9\right)\times \frac{75}{4}=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ -4x ด้วย 8x+9
-32x^{2}-36x+216\times 1x+4\left(8x+9\right)\times \frac{75}{4}=0
คูณ 54 และ 4 เพื่อรับ 216
-32x^{2}-36x+216x+4\left(8x+9\right)\times \frac{75}{4}=0
คูณ 216 และ 1 เพื่อรับ 216
-32x^{2}+180x+4\left(8x+9\right)\times \frac{75}{4}=0
รวม -36x และ 216x เพื่อให้ได้รับ 180x
-32x^{2}+180x+75\left(8x+9\right)=0
คูณ 4 และ \frac{75}{4} เพื่อรับ 75
-32x^{2}+180x+600x+675=0
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 75 ด้วย 8x+9
-32x^{2}+780x+675=0
รวม 180x และ 600x เพื่อให้ได้รับ 780x
x=\frac{-780±\sqrt{780^{2}-4\left(-32\right)\times 675}}{2\left(-32\right)}
สมการนี้อยู่ในรูปมาตรฐาน: ax^{2}+bx+c=0 ใช้ -32 แทน a, 780 แทน b และ 675 แทน c ในสูตรกำลังสอง \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a}
x=\frac{-780±\sqrt{608400-4\left(-32\right)\times 675}}{2\left(-32\right)}
ยกกำลังสอง 780
x=\frac{-780±\sqrt{608400+128\times 675}}{2\left(-32\right)}
คูณ -4 ด้วย -32
x=\frac{-780±\sqrt{608400+86400}}{2\left(-32\right)}
คูณ 128 ด้วย 675
x=\frac{-780±\sqrt{694800}}{2\left(-32\right)}
เพิ่ม 608400 ไปยัง 86400
x=\frac{-780±60\sqrt{193}}{2\left(-32\right)}
หารากที่สองของ 694800
x=\frac{-780±60\sqrt{193}}{-64}
คูณ 2 ด้วย -32
x=\frac{60\sqrt{193}-780}{-64}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{-780±60\sqrt{193}}{-64} เมื่อ ± เป็นบวก เพิ่ม -780 ไปยัง 60\sqrt{193}
x=\frac{195-15\sqrt{193}}{16}
หาร -780+60\sqrt{193} ด้วย -64
x=\frac{-60\sqrt{193}-780}{-64}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{-780±60\sqrt{193}}{-64} เมื่อ ± เป็นลบ ลบ 60\sqrt{193} จาก -780
x=\frac{15\sqrt{193}+195}{16}
หาร -780-60\sqrt{193} ด้วย -64
x=\frac{195-15\sqrt{193}}{16} x=\frac{15\sqrt{193}+195}{16}
สมการได้รับการแก้ไขแล้ว
\frac{27}{4}+12+54x\left(8x+9\right)^{-1}=x
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ 0 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย 12x ตัวคูณร่วมน้อยของ x,12
\frac{75}{4}+54x\left(8x+9\right)^{-1}=x
เพิ่ม \frac{27}{4} และ 12 เพื่อให้ได้รับ \frac{75}{4}
\frac{75}{4}+54x\left(8x+9\right)^{-1}-x=0
ลบ x จากทั้งสองด้าน
54x\left(8x+9\right)^{-1}-x=-\frac{75}{4}
ลบ \frac{75}{4} จากทั้งสองด้าน สิ่งใดลบออกจากศูนย์จะได้ผลเป็นตัวเองที่เป็นค่าลบ
-x+54\times \frac{1}{8x+9}x=-\frac{75}{4}
เรียงลำดับพจน์ใหม่
-x\times 4\left(8x+9\right)+54\times 4\times 1x=-75\left(8x+9\right)
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับ -\frac{9}{8} เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย 4\left(8x+9\right) ตัวคูณร่วมน้อยของ 8x+9,4
-4x\left(8x+9\right)+54\times 4\times 1x=-75\left(8x+9\right)
คูณ -1 และ 4 เพื่อรับ -4
-32x^{2}-36x+54\times 4\times 1x=-75\left(8x+9\right)
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ -4x ด้วย 8x+9
-32x^{2}-36x+216\times 1x=-75\left(8x+9\right)
คูณ 54 และ 4 เพื่อรับ 216
-32x^{2}-36x+216x=-75\left(8x+9\right)
คูณ 216 และ 1 เพื่อรับ 216
-32x^{2}+180x=-75\left(8x+9\right)
รวม -36x และ 216x เพื่อให้ได้รับ 180x
-32x^{2}+180x=-600x-675
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ -75 ด้วย 8x+9
-32x^{2}+180x+600x=-675
เพิ่ม 600x ไปทั้งสองด้าน
-32x^{2}+780x=-675
รวม 180x และ 600x เพื่อให้ได้รับ 780x
\frac{-32x^{2}+780x}{-32}=-\frac{675}{-32}
หารทั้งสองข้างด้วย -32
x^{2}+\frac{780}{-32}x=-\frac{675}{-32}
หารด้วย -32 เลิกทำการคูณด้วย -32
x^{2}-\frac{195}{8}x=-\frac{675}{-32}
ทำเศษส่วน \frac{780}{-32} ให้เป็นพจน์ต่ำสุดโดยลดทอนด้วย 4
x^{2}-\frac{195}{8}x=\frac{675}{32}
หาร -675 ด้วย -32
x^{2}-\frac{195}{8}x+\left(-\frac{195}{16}\right)^{2}=\frac{675}{32}+\left(-\frac{195}{16}\right)^{2}
หาร -\frac{195}{8} สัมประสิทธิ์ของพจน์ x ด้วย 2 เพื่อรับ -\frac{195}{16} จากนั้นเพิ่มกำลังสองของ -\frac{195}{16} ไปยังทั้งสองข้างของสมการ ขั้นตอนนี้จะทำให้ด้านซ้ายของสมการเป็นกำลังสองสมบูรณ์
x^{2}-\frac{195}{8}x+\frac{38025}{256}=\frac{675}{32}+\frac{38025}{256}
ยกกำลังสอง -\frac{195}{16} โดยยกกำลังสองทั้งตัวเศษและตัวส่วนของเศษส่วน
x^{2}-\frac{195}{8}x+\frac{38025}{256}=\frac{43425}{256}
เพิ่ม \frac{675}{32} ไปยัง \frac{38025}{256} ด้วยการค้นหาตัวส่วนทั่วไปและเพิ่มตัวเศษ แล้ว ลดเศษส่วนให้เป็นพจน์ต่ำที่สุดถ้าเป็นไปได้
\left(x-\frac{195}{16}\right)^{2}=\frac{43425}{256}
ตัวประกอบx^{2}-\frac{195}{8}x+\frac{38025}{256} โดยทั่วไป แล้ว เมื่อx^{2}+bx+cเป็นกําลังสองสมบูรณ์ จะสามารถแยกตัวประกอบเป็น\left(x+\frac{b}{2}\right)^{2}ได้เสมอ
\sqrt{\left(x-\frac{195}{16}\right)^{2}}=\sqrt{\frac{43425}{256}}
หารากที่สองของทั้งสองข้างของสมการ
x-\frac{195}{16}=\frac{15\sqrt{193}}{16} x-\frac{195}{16}=-\frac{15\sqrt{193}}{16}
ทำให้ง่ายขึ้น
x=\frac{15\sqrt{193}+195}{16} x=\frac{195-15\sqrt{193}}{16}
เพิ่ม \frac{195}{16} ไปยังทั้งสองข้างของสมการ