ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
หาค่า x
Tick mark Image
กราฟ

โจทย์ปัญหาที่คล้ายคลึงกันจากการค้นหาในเว็บ

แชร์

a+b=-16 ab=63
เมื่อต้องการแก้สมการปัจจัย x^{2}-16x+63 โดยใช้สูตร x^{2}+\left(a+b\right)x+ab=\left(x+a\right)\left(x+b\right) เมื่อต้องการค้นหา a และ b ให้ตั้งค่าระบบเพื่อแก้
-1,-63 -3,-21 -7,-9
เนื่องจาก ab เป็นค่าบวก a และ b มีเครื่องหมายเดียวกัน เนื่องจาก a+b เป็นค่าลบ a และ b เป็นค่าลบทั้งคู่ แสดงรายการคู่จำนวนเต็มดังกล่าวทั้งหมดที่ให้ผลิตภัณฑ์ 63
-1-63=-64 -3-21=-24 -7-9=-16
คำนวณผลรวมสำหรับแต่ละคู่
a=-9 b=-7
โซลูชันเป็นคู่ที่จะให้ผลรวม -16
\left(x-9\right)\left(x-7\right)
เขียนนิพจน์แยกตัวประกอบใหม่ \left(x+a\right)\left(x+b\right) โดยใช้ค่าที่ได้รับ
x=9 x=7
เมื่อต้องการค้นหาโซลูชันสมการให้แก้ไข x-9=0 และ x-7=0
a+b=-16 ab=1\times 63=63
เมื่อต้องการแก้สมการ ให้แยกตัวประกอบทางด้านซ้ายมือโดยการจัดกลุ่ม ขั้นแรกต้องเขียนด้านซ้ายมือใหม่เป็น x^{2}+ax+bx+63 เมื่อต้องการค้นหา a และ b ให้ตั้งค่าระบบเพื่อแก้
-1,-63 -3,-21 -7,-9
เนื่องจาก ab เป็นค่าบวก a และ b มีเครื่องหมายเดียวกัน เนื่องจาก a+b เป็นค่าลบ a และ b เป็นค่าลบทั้งคู่ แสดงรายการคู่จำนวนเต็มดังกล่าวทั้งหมดที่ให้ผลิตภัณฑ์ 63
-1-63=-64 -3-21=-24 -7-9=-16
คำนวณผลรวมสำหรับแต่ละคู่
a=-9 b=-7
โซลูชันเป็นคู่ที่จะให้ผลรวม -16
\left(x^{2}-9x\right)+\left(-7x+63\right)
เขียน x^{2}-16x+63 ใหม่เป็น \left(x^{2}-9x\right)+\left(-7x+63\right)
x\left(x-9\right)-7\left(x-9\right)
แยกตัวประกอบ x ในกลุ่มแรกและ -7 ใน
\left(x-9\right)\left(x-7\right)
แยกตัวประกอบของพจน์ร่วม x-9 โดยใช้คุณสมบัติการแจกแจง
x=9 x=7
เมื่อต้องการค้นหาโซลูชันสมการให้แก้ไข x-9=0 และ x-7=0
x^{2}-16x+63=0
สมการทั้งหมดของรูปแบบ ax^{2}+bx+c=0 จะสามารถแก้ไขได้โดยใช้สูตรยกกำลัง: \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a} ได้ สูตรยกกำลังจะช่วยให้ได้รับสองผลเฉลย หนึ่งคือเมื่อ ± เป็นบวกและอีกหนึ่งคือเมื่อเป็นลบ
x=\frac{-\left(-16\right)±\sqrt{\left(-16\right)^{2}-4\times 63}}{2}
สมการนี้อยู่ในรูปมาตรฐาน: ax^{2}+bx+c=0 ใช้ 1 แทน a, -16 แทน b และ 63 แทน c ในสูตรกำลังสอง \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a}
x=\frac{-\left(-16\right)±\sqrt{256-4\times 63}}{2}
ยกกำลังสอง -16
x=\frac{-\left(-16\right)±\sqrt{256-252}}{2}
คูณ -4 ด้วย 63
x=\frac{-\left(-16\right)±\sqrt{4}}{2}
เพิ่ม 256 ไปยัง -252
x=\frac{-\left(-16\right)±2}{2}
หารากที่สองของ 4
x=\frac{16±2}{2}
ตรงข้ามกับ -16 คือ 16
x=\frac{18}{2}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{16±2}{2} เมื่อ ± เป็นบวก เพิ่ม 16 ไปยัง 2
x=9
หาร 18 ด้วย 2
x=\frac{14}{2}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{16±2}{2} เมื่อ ± เป็นลบ ลบ 2 จาก 16
x=7
หาร 14 ด้วย 2
x=9 x=7
สมการได้รับการแก้ไขแล้ว
x^{2}-16x+63=0
สมการกำลังสองเช่นนี้จะสามารถหาค่าได้ ด้วยการทำให้เป็นกำลังสองสมบูรณ์ ในการทำให้เป็นกำลังสองสมบูรณ์ ขั้นแรกสมการต้องอยู่ในรูปแบบ x^{2}+bx=c
x^{2}-16x+63-63=-63
ลบ 63 จากทั้งสองข้างของสมการ
x^{2}-16x=-63
ลบ 63 จากตัวเองทำให้เหลือ 0
x^{2}-16x+\left(-8\right)^{2}=-63+\left(-8\right)^{2}
หาร -16 สัมประสิทธิ์ของพจน์ x ด้วย 2 เพื่อรับ -8 จากนั้นเพิ่มกำลังสองของ -8 ไปยังทั้งสองข้างของสมการ ขั้นตอนนี้จะทำให้ด้านซ้ายของสมการเป็นกำลังสองสมบูรณ์
x^{2}-16x+64=-63+64
ยกกำลังสอง -8
x^{2}-16x+64=1
เพิ่ม -63 ไปยัง 64
\left(x-8\right)^{2}=1
ตัวประกอบx^{2}-16x+64 โดยทั่วไป แล้ว เมื่อx^{2}+bx+cเป็นกําลังสองสมบูรณ์ จะสามารถแยกตัวประกอบเป็น\left(x+\frac{b}{2}\right)^{2}ได้เสมอ
\sqrt{\left(x-8\right)^{2}}=\sqrt{1}
หารากที่สองของทั้งสองข้างของสมการ
x-8=1 x-8=-1
ทำให้ง่ายขึ้น
x=9 x=7
เพิ่ม 8 ไปยังทั้งสองข้างของสมการ