หาค่า r, s
r = \frac{14}{13} = 1\frac{1}{13} \approx 1.076923077
s=\frac{5}{13}\approx 0.384615385
แชร์
คัดลอกไปยังคลิปบอร์ดแล้ว
2r-3s=1
พิจารณาสมการแรก สลับข้างเพื่อให้พจน์ตัวแปรทั้งหมดอยู่ทางด้านซ้าย
3r+2s=4
พิจารณาสมการที่สอง สลับข้างเพื่อให้พจน์ตัวแปรทั้งหมดอยู่ทางด้านซ้าย
2r-3s=1,3r+2s=4
เมื่อต้องการแก้คู่สมการที่ใช้ตัวทดแทน ขั้นแรก หาค่าสมการหนึ่งในสมการของหนึ่งในตัวแปร จากนั้น แทนค่าผลลัพธ์ของตัวแปรที่อยู่ในอีกสมการหนึ่ง
2r-3s=1
เลือกสมการหนึ่งสมการ และหาค่าสำหรับ r โดยแยก r ทางด้านซ้ายของเครื่องหมายเท่ากับ
2r=3s+1
เพิ่ม 3s ไปยังทั้งสองข้างของสมการ
r=\frac{1}{2}\left(3s+1\right)
หารทั้งสองข้างด้วย 2
r=\frac{3}{2}s+\frac{1}{2}
คูณ \frac{1}{2} ด้วย 3s+1
3\left(\frac{3}{2}s+\frac{1}{2}\right)+2s=4
ทดแทน \frac{3s+1}{2} สำหรับ r ในอีกสมการหนึ่ง 3r+2s=4
\frac{9}{2}s+\frac{3}{2}+2s=4
คูณ 3 ด้วย \frac{3s+1}{2}
\frac{13}{2}s+\frac{3}{2}=4
เพิ่ม \frac{9s}{2} ไปยัง 2s
\frac{13}{2}s=\frac{5}{2}
ลบ \frac{3}{2} จากทั้งสองข้างของสมการ
s=\frac{5}{13}
หารทั้งสองข้างของสมการด้วย \frac{13}{2} ซึ่งเหมือนกับการคูณทั้งสองข้างด้วยส่วนกลับของเศษส่วน
r=\frac{3}{2}\times \frac{5}{13}+\frac{1}{2}
ทดแทน \frac{5}{13} สำหรับ s ใน r=\frac{3}{2}s+\frac{1}{2} เนื่องจากสมการเป็นผลลัพธ์ประกอบด้วยตัวแปรเดียว คุณสามารถหาค่า r โดยตรงได้
r=\frac{15}{26}+\frac{1}{2}
คูณ \frac{3}{2} ครั้ง \frac{5}{13} โดยการคูณเศษด้วยเศษและคูณตัวส่วนด้วยส่วน แล้วลดเศษส่วนให้เป็นพจน์ต่ำสุดถ้าเป็นไปได้
r=\frac{14}{13}
เพิ่ม \frac{1}{2} ไปยัง \frac{15}{26} ด้วยการค้นหาตัวส่วนทั่วไปและเพิ่มตัวเศษ แล้ว ลดเศษส่วนให้เป็นพจน์ต่ำที่สุดถ้าเป็นไปได้
r=\frac{14}{13},s=\frac{5}{13}
ระบบถูกแก้แล้วในขณะนี้
2r-3s=1
พิจารณาสมการแรก สลับข้างเพื่อให้พจน์ตัวแปรทั้งหมดอยู่ทางด้านซ้าย
3r+2s=4
พิจารณาสมการที่สอง สลับข้างเพื่อให้พจน์ตัวแปรทั้งหมดอยู่ทางด้านซ้าย
2r-3s=1,3r+2s=4
ทำสมการให้อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน จากนั้นใช้เมทริกซ์แก้ระบบสมการ
\left(\begin{matrix}2&-3\\3&2\end{matrix}\right)\left(\begin{matrix}r\\s\end{matrix}\right)=\left(\begin{matrix}1\\4\end{matrix}\right)
เขียนสมการในรูปแบบเมทริกซ์
inverse(\left(\begin{matrix}2&-3\\3&2\end{matrix}\right))\left(\begin{matrix}2&-3\\3&2\end{matrix}\right)\left(\begin{matrix}r\\s\end{matrix}\right)=inverse(\left(\begin{matrix}2&-3\\3&2\end{matrix}\right))\left(\begin{matrix}1\\4\end{matrix}\right)
คูณซ้ายสมการโดยเมทริกซ์ผกผันของ \left(\begin{matrix}2&-3\\3&2\end{matrix}\right)
\left(\begin{matrix}1&0\\0&1\end{matrix}\right)\left(\begin{matrix}r\\s\end{matrix}\right)=inverse(\left(\begin{matrix}2&-3\\3&2\end{matrix}\right))\left(\begin{matrix}1\\4\end{matrix}\right)
ผลคูณของเมทริกซ์และค่าผกผันของเมทริกซ์คือเมทริกซ์เอกลักษณ์
\left(\begin{matrix}r\\s\end{matrix}\right)=inverse(\left(\begin{matrix}2&-3\\3&2\end{matrix}\right))\left(\begin{matrix}1\\4\end{matrix}\right)
คูณเมทริกซ์ทางด้านซ้ายของเครื่องหมายเท่ากับ
\left(\begin{matrix}r\\s\end{matrix}\right)=\left(\begin{matrix}\frac{2}{2\times 2-\left(-3\times 3\right)}&-\frac{-3}{2\times 2-\left(-3\times 3\right)}\\-\frac{3}{2\times 2-\left(-3\times 3\right)}&\frac{2}{2\times 2-\left(-3\times 3\right)}\end{matrix}\right)\left(\begin{matrix}1\\4\end{matrix}\right)
สําหรับเมทริกซ์ 2\times 2 \left(\begin{matrix}a&b\\c&d\end{matrix}\right) เมทริกซ์ผกผันคือ \left(\begin{matrix}\frac{d}{ad-bc}&\frac{-b}{ad-bc}\\\frac{-c}{ad-bc}&\frac{a}{ad-bc}\end{matrix}\right) ดังนั้นสมการเมทริกซ์สามารถเขียนใหม่เป็นปัญหาการคูณเมทริกซ์ได้
\left(\begin{matrix}r\\s\end{matrix}\right)=\left(\begin{matrix}\frac{2}{13}&\frac{3}{13}\\-\frac{3}{13}&\frac{2}{13}\end{matrix}\right)\left(\begin{matrix}1\\4\end{matrix}\right)
ดำเนินการทางคณิตศาสตร์
\left(\begin{matrix}r\\s\end{matrix}\right)=\left(\begin{matrix}\frac{2}{13}+\frac{3}{13}\times 4\\-\frac{3}{13}+\frac{2}{13}\times 4\end{matrix}\right)
คูณเมทริกซ์
\left(\begin{matrix}r\\s\end{matrix}\right)=\left(\begin{matrix}\frac{14}{13}\\\frac{5}{13}\end{matrix}\right)
ดำเนินการทางคณิตศาสตร์
r=\frac{14}{13},s=\frac{5}{13}
แยกเมทริกซ์องค์ประกอบ r และ s
2r-3s=1
พิจารณาสมการแรก สลับข้างเพื่อให้พจน์ตัวแปรทั้งหมดอยู่ทางด้านซ้าย
3r+2s=4
พิจารณาสมการที่สอง สลับข้างเพื่อให้พจน์ตัวแปรทั้งหมดอยู่ทางด้านซ้าย
2r-3s=1,3r+2s=4
เพื่อที่จะแก้ไขได้โดยการตัดออก สัมประสิทธิ์ของตัวแปรหนึ่งต้องเหมือนกันในทั้งสองสมการเพื่อให้ตัวแปรถูกตัดเมื่อสมการหนึ่งถูกลบออกจากอีกสมการ
3\times 2r+3\left(-3\right)s=3,2\times 3r+2\times 2s=2\times 4
เพื่อทำให้ 2r และ 3r เท่ากัน คูณพจน์ทั้งหมดบนแต่ละข้างของสมการแรกด้วย 3 และพจน์ทั้งหมดในแต่ละด้านของสมการที่สองด้วย 2
6r-9s=3,6r+4s=8
ทำให้ง่ายขึ้น
6r-6r-9s-4s=3-8
ลบ 6r+4s=8 จาก 6r-9s=3 โดยลบพจน์ที่เหมือนกันบนแต่ละข้างของเครื่องหมายเท่ากับ
-9s-4s=3-8
เพิ่ม 6r ไปยัง -6r ตัดพจน์ 6r และ -6r ทำให้สมการเหลือตัวแปรเดียวเท่านั้นที่สามารถแก้ไขได้
-13s=3-8
เพิ่ม -9s ไปยัง -4s
-13s=-5
เพิ่ม 3 ไปยัง -8
s=\frac{5}{13}
หารทั้งสองข้างด้วย -13
3r+2\times \frac{5}{13}=4
ทดแทน \frac{5}{13} สำหรับ s ใน 3r+2s=4 เนื่องจากสมการเป็นผลลัพธ์ประกอบด้วยตัวแปรเดียว คุณสามารถหาค่า r โดยตรงได้
3r+\frac{10}{13}=4
คูณ 2 ด้วย \frac{5}{13}
3r=\frac{42}{13}
ลบ \frac{10}{13} จากทั้งสองข้างของสมการ
r=\frac{14}{13}
หารทั้งสองข้างด้วย 3
r=\frac{14}{13},s=\frac{5}{13}
ระบบถูกแก้แล้วในขณะนี้
ตัวอย่าง
สมการกำลังสอง
{ x } ^ { 2 } - 4 x - 5 = 0
ตรีโกณมิติ
4 \sin \theta \cos \theta = 2 \sin \theta
สมการเชิงเส้น
y = 3x + 4
เลขคณิต
699 * 533
เมทริกซ์
\left[ \begin{array} { l l } { 2 } & { 3 } \\ { 5 } & { 4 } \end{array} \right] \left[ \begin{array} { l l l } { 2 } & { 0 } & { 3 } \\ { -1 } & { 1 } & { 5 } \end{array} \right]
สมการหลายชั้น
\left. \begin{cases} { 8x+2y = 46 } \\ { 7x+3y = 47 } \end{cases} \right.
การหาอนุพันธ์
\frac { d } { d x } \frac { ( 3 x ^ { 2 } - 2 ) } { ( x - 5 ) }
การหาปริพันธ์
\int _ { 0 } ^ { 1 } x e ^ { - x ^ { 2 } } d x
ลิมิต
\lim _{x \rightarrow-3} \frac{x^{2}-9}{x^{2}+2 x-3}