\left\{ \begin{array} { l } { 10 + 2 ( x - 2 y ) = ( x + 3 ) ^ { 2 } - ( x + 1 ) ^ { 2 } } \\ { 2 x + y + 1 = 0 } \end{array} \right.
หาค่า x, y
x=-1
y=1
กราฟ
แชร์
คัดลอกไปยังคลิปบอร์ดแล้ว
10+2x-4y=\left(x+3\right)^{2}-\left(x+1\right)^{2}
พิจารณาสมการแรก ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 2 ด้วย x-2y
10+2x-4y=x^{2}+6x+9-\left(x+1\right)^{2}
ใช้ทฤษฎีบททวินาม \left(a+b\right)^{2}=a^{2}+2ab+b^{2} เพื่อขยาย \left(x+3\right)^{2}
10+2x-4y=x^{2}+6x+9-\left(x^{2}+2x+1\right)
ใช้ทฤษฎีบททวินาม \left(a+b\right)^{2}=a^{2}+2ab+b^{2} เพื่อขยาย \left(x+1\right)^{2}
10+2x-4y=x^{2}+6x+9-x^{2}-2x-1
เมื่อต้องการค้นหาค่าตรงข้ามของ x^{2}+2x+1 ให้ค้นหาค่าตรงข้ามของแต่ละพจน์
10+2x-4y=6x+9-2x-1
รวม x^{2} และ -x^{2} เพื่อให้ได้รับ 0
10+2x-4y=4x+9-1
รวม 6x และ -2x เพื่อให้ได้รับ 4x
10+2x-4y=4x+8
ลบ 1 จาก 9 เพื่อรับ 8
10+2x-4y-4x=8
ลบ 4x จากทั้งสองด้าน
10-2x-4y=8
รวม 2x และ -4x เพื่อให้ได้รับ -2x
-2x-4y=8-10
ลบ 10 จากทั้งสองด้าน
-2x-4y=-2
ลบ 10 จาก 8 เพื่อรับ -2
2x+y=-1
พิจารณาสมการที่สอง ลบ 1 จากทั้งสองด้าน สิ่งใดลบออกจากศูนย์จะได้ผลเป็นตัวเองที่เป็นค่าลบ
-2x-4y=-2,2x+y=-1
เมื่อต้องการแก้คู่สมการที่ใช้ตัวทดแทน ขั้นแรก หาค่าสมการหนึ่งในสมการของหนึ่งในตัวแปร จากนั้น แทนค่าผลลัพธ์ของตัวแปรที่อยู่ในอีกสมการหนึ่ง
-2x-4y=-2
เลือกสมการหนึ่งสมการ และหาค่าสำหรับ x โดยแยก x ทางด้านซ้ายของเครื่องหมายเท่ากับ
-2x=4y-2
เพิ่ม 4y ไปยังทั้งสองข้างของสมการ
x=-\frac{1}{2}\left(4y-2\right)
หารทั้งสองข้างด้วย -2
x=-2y+1
คูณ -\frac{1}{2} ด้วย 4y-2
2\left(-2y+1\right)+y=-1
ทดแทน -2y+1 สำหรับ x ในอีกสมการหนึ่ง 2x+y=-1
-4y+2+y=-1
คูณ 2 ด้วย -2y+1
-3y+2=-1
เพิ่ม -4y ไปยัง y
-3y=-3
ลบ 2 จากทั้งสองข้างของสมการ
y=1
หารทั้งสองข้างด้วย -3
x=-2+1
ทดแทน 1 สำหรับ y ใน x=-2y+1 เนื่องจากสมการเป็นผลลัพธ์ประกอบด้วยตัวแปรเดียว คุณสามารถหาค่า x โดยตรงได้
x=-1
เพิ่ม 1 ไปยัง -2
x=-1,y=1
ระบบถูกแก้แล้วในขณะนี้
10+2x-4y=\left(x+3\right)^{2}-\left(x+1\right)^{2}
พิจารณาสมการแรก ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 2 ด้วย x-2y
10+2x-4y=x^{2}+6x+9-\left(x+1\right)^{2}
ใช้ทฤษฎีบททวินาม \left(a+b\right)^{2}=a^{2}+2ab+b^{2} เพื่อขยาย \left(x+3\right)^{2}
10+2x-4y=x^{2}+6x+9-\left(x^{2}+2x+1\right)
ใช้ทฤษฎีบททวินาม \left(a+b\right)^{2}=a^{2}+2ab+b^{2} เพื่อขยาย \left(x+1\right)^{2}
10+2x-4y=x^{2}+6x+9-x^{2}-2x-1
เมื่อต้องการค้นหาค่าตรงข้ามของ x^{2}+2x+1 ให้ค้นหาค่าตรงข้ามของแต่ละพจน์
10+2x-4y=6x+9-2x-1
รวม x^{2} และ -x^{2} เพื่อให้ได้รับ 0
10+2x-4y=4x+9-1
รวม 6x และ -2x เพื่อให้ได้รับ 4x
10+2x-4y=4x+8
ลบ 1 จาก 9 เพื่อรับ 8
10+2x-4y-4x=8
ลบ 4x จากทั้งสองด้าน
10-2x-4y=8
รวม 2x และ -4x เพื่อให้ได้รับ -2x
-2x-4y=8-10
ลบ 10 จากทั้งสองด้าน
-2x-4y=-2
ลบ 10 จาก 8 เพื่อรับ -2
2x+y=-1
พิจารณาสมการที่สอง ลบ 1 จากทั้งสองด้าน สิ่งใดลบออกจากศูนย์จะได้ผลเป็นตัวเองที่เป็นค่าลบ
-2x-4y=-2,2x+y=-1
ทำสมการให้อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน จากนั้นใช้เมทริกซ์แก้ระบบสมการ
\left(\begin{matrix}-2&-4\\2&1\end{matrix}\right)\left(\begin{matrix}x\\y\end{matrix}\right)=\left(\begin{matrix}-2\\-1\end{matrix}\right)
เขียนสมการในรูปแบบเมทริกซ์
inverse(\left(\begin{matrix}-2&-4\\2&1\end{matrix}\right))\left(\begin{matrix}-2&-4\\2&1\end{matrix}\right)\left(\begin{matrix}x\\y\end{matrix}\right)=inverse(\left(\begin{matrix}-2&-4\\2&1\end{matrix}\right))\left(\begin{matrix}-2\\-1\end{matrix}\right)
คูณซ้ายสมการโดยเมทริกซ์ผกผันของ \left(\begin{matrix}-2&-4\\2&1\end{matrix}\right)
\left(\begin{matrix}1&0\\0&1\end{matrix}\right)\left(\begin{matrix}x\\y\end{matrix}\right)=inverse(\left(\begin{matrix}-2&-4\\2&1\end{matrix}\right))\left(\begin{matrix}-2\\-1\end{matrix}\right)
ผลคูณของเมทริกซ์และค่าผกผันของเมทริกซ์คือเมทริกซ์เอกลักษณ์
\left(\begin{matrix}x\\y\end{matrix}\right)=inverse(\left(\begin{matrix}-2&-4\\2&1\end{matrix}\right))\left(\begin{matrix}-2\\-1\end{matrix}\right)
คูณเมทริกซ์ทางด้านซ้ายของเครื่องหมายเท่ากับ
\left(\begin{matrix}x\\y\end{matrix}\right)=\left(\begin{matrix}\frac{1}{-2-\left(-4\times 2\right)}&-\frac{-4}{-2-\left(-4\times 2\right)}\\-\frac{2}{-2-\left(-4\times 2\right)}&-\frac{2}{-2-\left(-4\times 2\right)}\end{matrix}\right)\left(\begin{matrix}-2\\-1\end{matrix}\right)
สําหรับเมทริกซ์ 2\times 2 \left(\begin{matrix}a&b\\c&d\end{matrix}\right) เมทริกซ์ผกผันคือ \left(\begin{matrix}\frac{d}{ad-bc}&\frac{-b}{ad-bc}\\\frac{-c}{ad-bc}&\frac{a}{ad-bc}\end{matrix}\right) ดังนั้นสมการเมทริกซ์สามารถเขียนใหม่เป็นปัญหาการคูณเมทริกซ์ได้
\left(\begin{matrix}x\\y\end{matrix}\right)=\left(\begin{matrix}\frac{1}{6}&\frac{2}{3}\\-\frac{1}{3}&-\frac{1}{3}\end{matrix}\right)\left(\begin{matrix}-2\\-1\end{matrix}\right)
ดำเนินการทางคณิตศาสตร์
\left(\begin{matrix}x\\y\end{matrix}\right)=\left(\begin{matrix}\frac{1}{6}\left(-2\right)+\frac{2}{3}\left(-1\right)\\-\frac{1}{3}\left(-2\right)-\frac{1}{3}\left(-1\right)\end{matrix}\right)
คูณเมทริกซ์
\left(\begin{matrix}x\\y\end{matrix}\right)=\left(\begin{matrix}-1\\1\end{matrix}\right)
ดำเนินการทางคณิตศาสตร์
x=-1,y=1
แยกเมทริกซ์องค์ประกอบ x และ y
10+2x-4y=\left(x+3\right)^{2}-\left(x+1\right)^{2}
พิจารณาสมการแรก ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ 2 ด้วย x-2y
10+2x-4y=x^{2}+6x+9-\left(x+1\right)^{2}
ใช้ทฤษฎีบททวินาม \left(a+b\right)^{2}=a^{2}+2ab+b^{2} เพื่อขยาย \left(x+3\right)^{2}
10+2x-4y=x^{2}+6x+9-\left(x^{2}+2x+1\right)
ใช้ทฤษฎีบททวินาม \left(a+b\right)^{2}=a^{2}+2ab+b^{2} เพื่อขยาย \left(x+1\right)^{2}
10+2x-4y=x^{2}+6x+9-x^{2}-2x-1
เมื่อต้องการค้นหาค่าตรงข้ามของ x^{2}+2x+1 ให้ค้นหาค่าตรงข้ามของแต่ละพจน์
10+2x-4y=6x+9-2x-1
รวม x^{2} และ -x^{2} เพื่อให้ได้รับ 0
10+2x-4y=4x+9-1
รวม 6x และ -2x เพื่อให้ได้รับ 4x
10+2x-4y=4x+8
ลบ 1 จาก 9 เพื่อรับ 8
10+2x-4y-4x=8
ลบ 4x จากทั้งสองด้าน
10-2x-4y=8
รวม 2x และ -4x เพื่อให้ได้รับ -2x
-2x-4y=8-10
ลบ 10 จากทั้งสองด้าน
-2x-4y=-2
ลบ 10 จาก 8 เพื่อรับ -2
2x+y=-1
พิจารณาสมการที่สอง ลบ 1 จากทั้งสองด้าน สิ่งใดลบออกจากศูนย์จะได้ผลเป็นตัวเองที่เป็นค่าลบ
-2x-4y=-2,2x+y=-1
เพื่อที่จะแก้ไขได้โดยการตัดออก สัมประสิทธิ์ของตัวแปรหนึ่งต้องเหมือนกันในทั้งสองสมการเพื่อให้ตัวแปรถูกตัดเมื่อสมการหนึ่งถูกลบออกจากอีกสมการ
2\left(-2\right)x+2\left(-4\right)y=2\left(-2\right),-2\times 2x-2y=-2\left(-1\right)
เพื่อทำให้ -2x และ 2x เท่ากัน คูณพจน์ทั้งหมดบนแต่ละข้างของสมการแรกด้วย 2 และพจน์ทั้งหมดในแต่ละด้านของสมการที่สองด้วย -2
-4x-8y=-4,-4x-2y=2
ทำให้ง่ายขึ้น
-4x+4x-8y+2y=-4-2
ลบ -4x-2y=2 จาก -4x-8y=-4 โดยลบพจน์ที่เหมือนกันบนแต่ละข้างของเครื่องหมายเท่ากับ
-8y+2y=-4-2
เพิ่ม -4x ไปยัง 4x ตัดพจน์ -4x และ 4x ทำให้สมการเหลือตัวแปรเดียวเท่านั้นที่สามารถแก้ไขได้
-6y=-4-2
เพิ่ม -8y ไปยัง 2y
-6y=-6
เพิ่ม -4 ไปยัง -2
y=1
หารทั้งสองข้างด้วย -6
2x+1=-1
ทดแทน 1 สำหรับ y ใน 2x+y=-1 เนื่องจากสมการเป็นผลลัพธ์ประกอบด้วยตัวแปรเดียว คุณสามารถหาค่า x โดยตรงได้
2x=-2
ลบ 1 จากทั้งสองข้างของสมการ
x=-1
หารทั้งสองข้างด้วย 2
x=-1,y=1
ระบบถูกแก้แล้วในขณะนี้
ตัวอย่าง
สมการกำลังสอง
{ x } ^ { 2 } - 4 x - 5 = 0
ตรีโกณมิติ
4 \sin \theta \cos \theta = 2 \sin \theta
สมการเชิงเส้น
y = 3x + 4
เลขคณิต
699 * 533
เมทริกซ์
\left[ \begin{array} { l l } { 2 } & { 3 } \\ { 5 } & { 4 } \end{array} \right] \left[ \begin{array} { l l l } { 2 } & { 0 } & { 3 } \\ { -1 } & { 1 } & { 5 } \end{array} \right]
สมการหลายชั้น
\left. \begin{cases} { 8x+2y = 46 } \\ { 7x+3y = 47 } \end{cases} \right.
การหาอนุพันธ์
\frac { d } { d x } \frac { ( 3 x ^ { 2 } - 2 ) } { ( x - 5 ) }
การหาปริพันธ์
\int _ { 0 } ^ { 1 } x e ^ { - x ^ { 2 } } d x
ลิมิต
\lim _{x \rightarrow-3} \frac{x^{2}-9}{x^{2}+2 x-3}