หาค่า x
x=-24
x=80
กราฟ
แชร์
คัดลอกไปยังคลิปบอร์ดแล้ว
48x+48x+1920=x\left(x+40\right)
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับค่า -40,0 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย 48x\left(x+40\right) ตัวคูณร่วมน้อยของ x+40,x,48
96x+1920=x\left(x+40\right)
รวม 48x และ 48x เพื่อให้ได้รับ 96x
96x+1920=x^{2}+40x
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x ด้วย x+40
96x+1920-x^{2}=40x
ลบ x^{2} จากทั้งสองด้าน
96x+1920-x^{2}-40x=0
ลบ 40x จากทั้งสองด้าน
56x+1920-x^{2}=0
รวม 96x และ -40x เพื่อให้ได้รับ 56x
-x^{2}+56x+1920=0
จัดเรียงพหุนามให้อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน วางตามลำดับจากดีกรีที่มากที่สุดไปหาน้อยที่สุด
a+b=56 ab=-1920=-1920
เมื่อต้องการแก้สมการ ให้แยกตัวประกอบทางด้านซ้ายมือโดยการจัดกลุ่ม ขั้นแรกต้องเขียนด้านซ้ายมือใหม่เป็น -x^{2}+ax+bx+1920 เมื่อต้องการค้นหา a และ b ให้ตั้งค่าระบบเพื่อแก้
-1,1920 -2,960 -3,640 -4,480 -5,384 -6,320 -8,240 -10,192 -12,160 -15,128 -16,120 -20,96 -24,80 -30,64 -32,60 -40,48
เนื่องจาก ab เป็นค่าลบ a และ b มีสัญลักษณ์ตรงข้ามกัน เนื่องจาก a+b เป็นบวกจำนวนบวกมีค่าสัมบูรณ์ที่มากกว่าจุดลบ แสดงรายการคู่จำนวนเต็มดังกล่าวทั้งหมดที่ให้ผลิตภัณฑ์ -1920
-1+1920=1919 -2+960=958 -3+640=637 -4+480=476 -5+384=379 -6+320=314 -8+240=232 -10+192=182 -12+160=148 -15+128=113 -16+120=104 -20+96=76 -24+80=56 -30+64=34 -32+60=28 -40+48=8
คำนวณผลรวมสำหรับแต่ละคู่
a=80 b=-24
โซลูชันเป็นคู่ที่จะให้ผลรวม 56
\left(-x^{2}+80x\right)+\left(-24x+1920\right)
เขียน -x^{2}+56x+1920 ใหม่เป็น \left(-x^{2}+80x\right)+\left(-24x+1920\right)
-x\left(x-80\right)-24\left(x-80\right)
แยกตัวประกอบ -x ในกลุ่มแรกและ -24 ใน
\left(x-80\right)\left(-x-24\right)
แยกตัวประกอบของพจน์ร่วม x-80 โดยใช้คุณสมบัติการแจกแจง
x=80 x=-24
เมื่อต้องการค้นหาโซลูชันสมการให้แก้ไข x-80=0 และ -x-24=0
48x+48x+1920=x\left(x+40\right)
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับค่า -40,0 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย 48x\left(x+40\right) ตัวคูณร่วมน้อยของ x+40,x,48
96x+1920=x\left(x+40\right)
รวม 48x และ 48x เพื่อให้ได้รับ 96x
96x+1920=x^{2}+40x
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x ด้วย x+40
96x+1920-x^{2}=40x
ลบ x^{2} จากทั้งสองด้าน
96x+1920-x^{2}-40x=0
ลบ 40x จากทั้งสองด้าน
56x+1920-x^{2}=0
รวม 96x และ -40x เพื่อให้ได้รับ 56x
-x^{2}+56x+1920=0
สมการทั้งหมดของรูปแบบ ax^{2}+bx+c=0 จะสามารถแก้ไขได้โดยใช้สูตรยกกำลัง: \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a} ได้ สูตรยกกำลังจะช่วยให้ได้รับสองผลเฉลย หนึ่งคือเมื่อ ± เป็นบวกและอีกหนึ่งคือเมื่อเป็นลบ
x=\frac{-56±\sqrt{56^{2}-4\left(-1\right)\times 1920}}{2\left(-1\right)}
สมการนี้อยู่ในรูปมาตรฐาน: ax^{2}+bx+c=0 ใช้ -1 แทน a, 56 แทน b และ 1920 แทน c ในสูตรกำลังสอง \frac{-b±\sqrt{b^{2}-4ac}}{2a}
x=\frac{-56±\sqrt{3136-4\left(-1\right)\times 1920}}{2\left(-1\right)}
ยกกำลังสอง 56
x=\frac{-56±\sqrt{3136+4\times 1920}}{2\left(-1\right)}
คูณ -4 ด้วย -1
x=\frac{-56±\sqrt{3136+7680}}{2\left(-1\right)}
คูณ 4 ด้วย 1920
x=\frac{-56±\sqrt{10816}}{2\left(-1\right)}
เพิ่ม 3136 ไปยัง 7680
x=\frac{-56±104}{2\left(-1\right)}
หารากที่สองของ 10816
x=\frac{-56±104}{-2}
คูณ 2 ด้วย -1
x=\frac{48}{-2}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{-56±104}{-2} เมื่อ ± เป็นบวก เพิ่ม -56 ไปยัง 104
x=-24
หาร 48 ด้วย -2
x=-\frac{160}{-2}
ตอนนี้ แก้สมการ x=\frac{-56±104}{-2} เมื่อ ± เป็นลบ ลบ 104 จาก -56
x=80
หาร -160 ด้วย -2
x=-24 x=80
สมการได้รับการแก้ไขแล้ว
48x+48x+1920=x\left(x+40\right)
ตัวแปร x ไม่สามารถเท่ากับค่า -40,0 เนื่องจากไม่ได้กำหนดให้หารด้วยศูนย์ได้ คูณทั้งสองข้างของสมการด้วย 48x\left(x+40\right) ตัวคูณร่วมน้อยของ x+40,x,48
96x+1920=x\left(x+40\right)
รวม 48x และ 48x เพื่อให้ได้รับ 96x
96x+1920=x^{2}+40x
ใช้คุณสมบัติการแจกแจงเพื่อคูณ x ด้วย x+40
96x+1920-x^{2}=40x
ลบ x^{2} จากทั้งสองด้าน
96x+1920-x^{2}-40x=0
ลบ 40x จากทั้งสองด้าน
56x+1920-x^{2}=0
รวม 96x และ -40x เพื่อให้ได้รับ 56x
56x-x^{2}=-1920
ลบ 1920 จากทั้งสองด้าน สิ่งใดลบออกจากศูนย์จะได้ผลเป็นตัวเองที่เป็นค่าลบ
-x^{2}+56x=-1920
สมการกำลังสองเช่นนี้จะสามารถหาค่าได้ ด้วยการทำให้เป็นกำลังสองสมบูรณ์ ในการทำให้เป็นกำลังสองสมบูรณ์ ขั้นแรกสมการต้องอยู่ในรูปแบบ x^{2}+bx=c
\frac{-x^{2}+56x}{-1}=-\frac{1920}{-1}
หารทั้งสองข้างด้วย -1
x^{2}+\frac{56}{-1}x=-\frac{1920}{-1}
หารด้วย -1 เลิกทำการคูณด้วย -1
x^{2}-56x=-\frac{1920}{-1}
หาร 56 ด้วย -1
x^{2}-56x=1920
หาร -1920 ด้วย -1
x^{2}-56x+\left(-28\right)^{2}=1920+\left(-28\right)^{2}
หาร -56 สัมประสิทธิ์ของพจน์ x ด้วย 2 เพื่อรับ -28 จากนั้นเพิ่มกำลังสองของ -28 ไปยังทั้งสองข้างของสมการ ขั้นตอนนี้จะทำให้ด้านซ้ายของสมการเป็นกำลังสองสมบูรณ์
x^{2}-56x+784=1920+784
ยกกำลังสอง -28
x^{2}-56x+784=2704
เพิ่ม 1920 ไปยัง 784
\left(x-28\right)^{2}=2704
ตัวประกอบx^{2}-56x+784 โดยทั่วไป แล้ว เมื่อx^{2}+bx+cเป็นกําลังสองสมบูรณ์ จะสามารถแยกตัวประกอบเป็น\left(x+\frac{b}{2}\right)^{2}ได้เสมอ
\sqrt{\left(x-28\right)^{2}}=\sqrt{2704}
หารากที่สองของทั้งสองข้างของสมการ
x-28=52 x-28=-52
ทำให้ง่ายขึ้น
x=80 x=-24
เพิ่ม 28 ไปยังทั้งสองข้างของสมการ
ตัวอย่าง
สมการกำลังสอง
{ x } ^ { 2 } - 4 x - 5 = 0
ตรีโกณมิติ
4 \sin \theta \cos \theta = 2 \sin \theta
สมการเชิงเส้น
y = 3x + 4
เลขคณิต
699 * 533
เมทริกซ์
\left[ \begin{array} { l l } { 2 } & { 3 } \\ { 5 } & { 4 } \end{array} \right] \left[ \begin{array} { l l l } { 2 } & { 0 } & { 3 } \\ { -1 } & { 1 } & { 5 } \end{array} \right]
สมการหลายชั้น
\left. \begin{cases} { 8x+2y = 46 } \\ { 7x+3y = 47 } \end{cases} \right.
การหาอนุพันธ์
\frac { d } { d x } \frac { ( 3 x ^ { 2 } - 2 ) } { ( x - 5 ) }
การหาปริพันธ์
\int _ { 0 } ^ { 1 } x e ^ { - x ^ { 2 } } d x
ลิมิต
\lim _{x \rightarrow-3} \frac{x^{2}-9}{x^{2}+2 x-3}