หาค่า
3.5
แยกตัวประกอบ
\frac{7}{2} = 3\frac{1}{2} = 3.5
แชร์
คัดลอกไปยังคลิปบอร์ดแล้ว
\frac{\left(\frac{4\times 3+2}{3}+0.75\right)\times \frac{3\times 13+9}{13}\times 7}{\frac{\frac{5\times 45+4}{45}-\frac{4\times 6+1}{6}}{\frac{5\times 15+8}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
หาร \frac{\left(\frac{4\times 3+2}{3}+0.75\right)\times \frac{3\times 13+9}{13}}{\frac{\frac{5\times 45+4}{45}-\frac{4\times 6+1}{6}}{\frac{5\times 15+8}{15}}} ด้วย \frac{34\times 7+2}{7} โดยคูณ \frac{\left(\frac{4\times 3+2}{3}+0.75\right)\times \frac{3\times 13+9}{13}}{\frac{\frac{5\times 45+4}{45}-\frac{4\times 6+1}{6}}{\frac{5\times 15+8}{15}}} ด้วยส่วนกลับของ \frac{34\times 7+2}{7}
\frac{\left(\frac{12+2}{3}+0.75\right)\times \frac{3\times 13+9}{13}\times 7}{\frac{\frac{5\times 45+4}{45}-\frac{4\times 6+1}{6}}{\frac{5\times 15+8}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
คูณ 4 และ 3 เพื่อรับ 12
\frac{\left(\frac{14}{3}+0.75\right)\times \frac{3\times 13+9}{13}\times 7}{\frac{\frac{5\times 45+4}{45}-\frac{4\times 6+1}{6}}{\frac{5\times 15+8}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
เพิ่ม 12 และ 2 เพื่อให้ได้รับ 14
\frac{\left(\frac{14}{3}+\frac{3}{4}\right)\times \frac{3\times 13+9}{13}\times 7}{\frac{\frac{5\times 45+4}{45}-\frac{4\times 6+1}{6}}{\frac{5\times 15+8}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
แปลงเลขฐานสิบ 0.75 เป็นเศษส่วน \frac{75}{100} ทำเศษส่วน \frac{75}{100} ให้เป็นพจน์ต่ำสุดโดยลดทอนด้วย 25
\frac{\left(\frac{56}{12}+\frac{9}{12}\right)\times \frac{3\times 13+9}{13}\times 7}{\frac{\frac{5\times 45+4}{45}-\frac{4\times 6+1}{6}}{\frac{5\times 15+8}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
ตัวคูณร่วมน้อยของ 3 และ 4 เป็น 12 แปลง \frac{14}{3} และ \frac{3}{4} ให้เป็นเศษส่วนด้วยตัวหาร 12
\frac{\frac{56+9}{12}\times \frac{3\times 13+9}{13}\times 7}{\frac{\frac{5\times 45+4}{45}-\frac{4\times 6+1}{6}}{\frac{5\times 15+8}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
เนื่องจาก \frac{56}{12} และ \frac{9}{12} มีตัวส่วนเดียวกัน ให้เพิ่มโดยการบวกตัวเศษ
\frac{\frac{65}{12}\times \frac{3\times 13+9}{13}\times 7}{\frac{\frac{5\times 45+4}{45}-\frac{4\times 6+1}{6}}{\frac{5\times 15+8}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
เพิ่ม 56 และ 9 เพื่อให้ได้รับ 65
\frac{\frac{65}{12}\times \frac{39+9}{13}\times 7}{\frac{\frac{5\times 45+4}{45}-\frac{4\times 6+1}{6}}{\frac{5\times 15+8}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
คูณ 3 และ 13 เพื่อรับ 39
\frac{\frac{65}{12}\times \frac{48}{13}\times 7}{\frac{\frac{5\times 45+4}{45}-\frac{4\times 6+1}{6}}{\frac{5\times 15+8}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
เพิ่ม 39 และ 9 เพื่อให้ได้รับ 48
\frac{\frac{65\times 48}{12\times 13}\times 7}{\frac{\frac{5\times 45+4}{45}-\frac{4\times 6+1}{6}}{\frac{5\times 15+8}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
คูณ \frac{65}{12} ด้วย \frac{48}{13} โดยการคูณเศษด้วยเศษและคูณตัวส่วนด้วยส่วน
\frac{\frac{3120}{156}\times 7}{\frac{\frac{5\times 45+4}{45}-\frac{4\times 6+1}{6}}{\frac{5\times 15+8}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
ทำการคูณในเศษส่วน \frac{65\times 48}{12\times 13}
\frac{20\times 7}{\frac{\frac{5\times 45+4}{45}-\frac{4\times 6+1}{6}}{\frac{5\times 15+8}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
หาร 3120 ด้วย 156 เพื่อรับ 20
\frac{140}{\frac{\frac{5\times 45+4}{45}-\frac{4\times 6+1}{6}}{\frac{5\times 15+8}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
คูณ 20 และ 7 เพื่อรับ 140
\frac{140}{\frac{\frac{225+4}{45}-\frac{4\times 6+1}{6}}{\frac{5\times 15+8}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
คูณ 5 และ 45 เพื่อรับ 225
\frac{140}{\frac{\frac{229}{45}-\frac{4\times 6+1}{6}}{\frac{5\times 15+8}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
เพิ่ม 225 และ 4 เพื่อให้ได้รับ 229
\frac{140}{\frac{\frac{229}{45}-\frac{24+1}{6}}{\frac{5\times 15+8}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
คูณ 4 และ 6 เพื่อรับ 24
\frac{140}{\frac{\frac{229}{45}-\frac{25}{6}}{\frac{5\times 15+8}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
เพิ่ม 24 และ 1 เพื่อให้ได้รับ 25
\frac{140}{\frac{\frac{458}{90}-\frac{375}{90}}{\frac{5\times 15+8}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
ตัวคูณร่วมน้อยของ 45 และ 6 เป็น 90 แปลง \frac{229}{45} และ \frac{25}{6} ให้เป็นเศษส่วนด้วยตัวหาร 90
\frac{140}{\frac{\frac{458-375}{90}}{\frac{5\times 15+8}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
เนื่องจาก \frac{458}{90} และ \frac{375}{90} มีตัวส่วนเดียวกัน ให้ลบโดยการลบตัวเศษ
\frac{140}{\frac{\frac{83}{90}}{\frac{5\times 15+8}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
ลบ 375 จาก 458 เพื่อรับ 83
\frac{140}{\frac{\frac{83}{90}}{\frac{75+8}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
คูณ 5 และ 15 เพื่อรับ 75
\frac{140}{\frac{\frac{83}{90}}{\frac{83}{15}}\left(34\times 7+2\right)}
เพิ่ม 75 และ 8 เพื่อให้ได้รับ 83
\frac{140}{\frac{83}{90}\times \frac{15}{83}\left(34\times 7+2\right)}
หาร \frac{83}{90} ด้วย \frac{83}{15} โดยคูณ \frac{83}{90} ด้วยส่วนกลับของ \frac{83}{15}
\frac{140}{\frac{83\times 15}{90\times 83}\left(34\times 7+2\right)}
คูณ \frac{83}{90} ด้วย \frac{15}{83} โดยการคูณเศษด้วยเศษและคูณตัวส่วนด้วยส่วน
\frac{140}{\frac{15}{90}\left(34\times 7+2\right)}
ตัด 83 ออกจากทั้งตัวเศษและตัวส่วน
\frac{140}{\frac{1}{6}\left(34\times 7+2\right)}
ทำเศษส่วน \frac{15}{90} ให้เป็นพจน์ต่ำสุดโดยลดทอนด้วย 15
\frac{140}{\frac{1}{6}\left(238+2\right)}
คูณ 34 และ 7 เพื่อรับ 238
\frac{140}{\frac{1}{6}\times 240}
เพิ่ม 238 และ 2 เพื่อให้ได้รับ 240
\frac{140}{\frac{240}{6}}
คูณ \frac{1}{6} และ 240 เพื่อรับ \frac{240}{6}
\frac{140}{40}
หาร 240 ด้วย 6 เพื่อรับ 40
\frac{7}{2}
ทำเศษส่วน \frac{140}{40} ให้เป็นพจน์ต่ำสุดโดยลดทอนด้วย 20
ตัวอย่าง
สมการกำลังสอง
{ x } ^ { 2 } - 4 x - 5 = 0
ตรีโกณมิติ
4 \sin \theta \cos \theta = 2 \sin \theta
สมการเชิงเส้น
y = 3x + 4
เลขคณิต
699 * 533
เมทริกซ์
\left[ \begin{array} { l l } { 2 } & { 3 } \\ { 5 } & { 4 } \end{array} \right] \left[ \begin{array} { l l l } { 2 } & { 0 } & { 3 } \\ { -1 } & { 1 } & { 5 } \end{array} \right]
สมการหลายชั้น
\left. \begin{cases} { 8x+2y = 46 } \\ { 7x+3y = 47 } \end{cases} \right.
การหาอนุพันธ์
\frac { d } { d x } \frac { ( 3 x ^ { 2 } - 2 ) } { ( x - 5 ) }
การหาปริพันธ์
\int _ { 0 } ^ { 1 } x e ^ { - x ^ { 2 } } d x
ลิมิต
\lim _{x \rightarrow-3} \frac{x^{2}-9}{x^{2}+2 x-3}